คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 535-536/2540

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

กฎกระทรวงฉบับที่23(พ.ศ.2530)ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันฯระบุถึงการเล่นการพนันตามบัญชีลำดับที่28ท้ายพระราชบัญญัติการพนันฯไว้ว่าเครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกลพลังไฟฟ้าพลังแสงสว่างหรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดยวิธีสัมผัสเลื่อนกดฯลฯโยกหมุนหรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ไม่ว่าจะโดยมีการนับแต้มหรือเครื่องหมายใดๆหรือไม่ก็ตามนั้นบ่งบอกความหมายอยู่ในตัวว่าเป็นการแพ้ชนะกันระหว่างบุคคลซึ่งเป็นผู้เล่นด้วยกันหรือบุคคลอื่นตั้งแต่2ฝ่ายขึ้นไปสำหรับสภาพของตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้ในคดีนี้เป็นเครื่องเล่นเกมส์ที่มุ่งประสงค์จะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินและเพิ่มทักษะแก่ผู้เล่นเพียงอย่างเดียวมิได้มุ่งประสงค์ให้ใช้เป็นเครื่องเล่นการพนันแต่อย่างใดแม้ผู้เล่นจะต้องหยอดเหรียญชนิดราคา5บาทหรือ10บาทเข้าไปในเครื่องก่อนที่ผู้เล่นจะเริ่มเล่นเพื่อให้เครื่องทำงานแต่การหยอดเหรียญดังกล่าวก็ถือได้ว่าผู้เล่นได้จ่ายเงินเป็นค่าตอบแทนการเล่นการพนันเงินที่ว่านี้หาใช่เงินสินพนันไม่ส่วนที่เกมส์มีการต่อสู้และมีการแพ้ชนะกันระหว่างตัวเล่นทั้งมีจำนวนแต้มหรือจำนวนคะแนนปรากฎขึ้นที่จอภาพของเครื่องเล่นก็เป็นเรื่องเนื้อหาของเกมส์การเล่นแต่ละประเภทที่ผู้คิดสร้างสรรค์เกมส์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพื่อฝึกทักษะของผู้เล่นหากผู้เล่นไม่นำเอาผลแพ้ชนะของตัวเล่นเกมส์ดังกล่าวไปเล่นพนันเพื่อการแพ้ชนะระหว่างบุคคลซึ่งเป็นผู้เล่นด้วยกันหรือบุคคลอื่นตั้งแต่2ฝ่ายขึ้นไปเกมส์นั้นก็มิใช่เกมส์การพนันแต่อย่างใดเมื่อตู้วิดีโอเกมส์ของกลางมิได้มีคุณสมบัติที่มีไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องเล่นการพนันโดยเฉพาะเพียงอย่างเดียวตู้วีดีโอเกมส์ดังกล่าวจึงมิใช่เครื่องเล่นการพนันที่ผู้เล่นจะต้องมีความผิดตามที่ระบุไว้ในบัญชีขอันดับที่28ท้ายพระราชบัญญัติการพนันฯ

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้เรียกจำเลยในสำนวนแรกว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2และเรียกจำเลยในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 3
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้อง ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 10, 12, 14, 17กฎกระทรวง ฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2503) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ข้อ 3, 4, 5 กฎกระทรวงฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2530)ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ข้อ 2 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 33 ริบของกลางทั้งหมดเว้นแต่ธนบัตรชนิดราคา 100 บาท รวม 2 ฉบับ คืนแก่เจ้าพนักงานผู้เป็นเจ้าของ
จำเลย ทั้ง สาม ให้การ ปฎิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 4,12 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้ลงโทษจำคุกคนละ 4 เดือน และปรับคนละ 2,000 บาท จำเลยที่ 2 ลงโทษปรับ 2,000 บาท ไม่ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 และที่ 3 ได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 และที่ 3 ไว้มีกำหนด 2 ปี โดยให้คุมความประพฤติจำเลยที่ 1 และที่ 3 ไว้มีกำหนด 2 ปี และให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้ง ภายในกำหนด 2 ปี เห็นสมควรกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยที่ 1 และที่ 3โดยห้ามประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นหรือควบคุมดูแลเครื่องเล่นซึ่งใช้ไฟฟ้าจักรกลที่มีการนับแต้มเพื่อป้องกันมิให้กลับไปกระทำความผิดอีกหากจำเลยที่ 1 และที่ 3 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 สำหรับจำเลยที่ 2 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29 ริบเหรียญชนิดราคา 5 บาท จำนวน 61 เหรียญของกลาง สำหรับธนาคารบัตรชนิดราคา 100 บาท จำนวน 2 ฉบับ โจทก์ส่งสำเนาภาพถ่ายจึงไม่มีธนบัตรที่จะคืนให้ ส่วนคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบและจำเลยที่ 2 กับที่ 3 นำสืบรับและมิได้นำสืบโต้เถียงฟังยุติว่าตู้วีดีโอเกมส์ของกลางจำนวน 2 ตู้ เป็นของจำเลยที่ 2 ซึ่งมีจำเลยที่ 3 เป็นกรรมการ ขณะเกิดเหตุตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้ตั้งอยู่ในร้าน เอ.บี.ซี. เบบี้เฮ้าส์ บนชั้นที่ 2ของอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ มีจำเลยที่ 1 ลูกจ้างของจำเลยที่ 2เป็นผู้ดูแล ตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้นี้สามารถใช้เป็นอุปกรณ์ในการเล่นเกมส์ได้โดยใช้ไฟฟ้าเป็นสื่อให้ระบบเครื่องเล่นเกมส์ทำงานแล้วผู้เล่นเกมส์จะหยอดเหรียญชนิดราคา 5 บาทหรือชนิดราคา 10 บาท เข้าไปในเครื่อง จากนั้นผู้เล่นก็จะกดปุ่มโยกคันบังคับเพื่อเลือกตัวเล่น 1 ตัว ในจำนวน 12 ตัว แล้วให้ตัวเล่นต่อสู้กับตัวเล่นตัวอื่นที่กำหนดไว้ในเครื่องเล่น ขณะผู้เล่นเล่นเกมส์จะมีตัวเลขจำนวนแต้มหรือจำนวนคะแนนปรากฎขึ้นที่จอภาพของเครื่องเล่น เครื่องเล่นเกมส์ดังกล่าวโดยปกติผู้เล่นจะเล่นคราวละคน แต่ก็สามารถเล่นคราวละ 2 คนได้ด้วย คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ว่า ตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้เป็นเครื่องเล่นการพนันที่ผู้เล่นจะต้องมีความผิดตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข ลำดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งแก้ไขโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 23(พ.ศ.2530)ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่า กฎกระทรวงฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2530) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ระบุถึงการเล่นการพนันตามบัญชี ข ลำดับที่ 28 ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ไว้ว่า”เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดยวิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ดัน ยิง โยกหมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ไม่ว่าจะโดยมีการนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม” ความหมายของเครื่องเล่นตามที่กฎกระทรวงฉบับดังกล่าวกำหนดไว้ว่าเป็นเครื่องเล่นซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้นั้นบ่งบอกความหมายอยู่ในตัวว่าเป็นการแพ้ชนะกันระหว่างบุคคลซึ่งเป็นผู้เล่นด้วยกันหรือบุคคลอื่นตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไป สำหรับตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้ในคดีนี้ โจทก์นำสืบโดยมีนายพงษ์ชัย เลิศมหาวานิชพันตำรวจเอกทัศนะ คล่องพยาบาล ผู้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันของกระทรวงยุติธรรม และร้อยตำรวจเอกนพดล เพ็ชรคำเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับเบิกความแต่เพียงว่า ก่อนที่ผู้เล่นจะเล่นตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้ ผู้เล่นจะต้องหยอดเหรียญชนิดราคา 5 บาท หรือชนิดราคา 10 บาท เข้าไปในเครื่องแล้วกดปุ่มและโยกคันบังคับเพื่อเลือกตัวเล่นเพียง 1 ตัว ในจำนวน12 ตัว จากนั้นก็จะให้ตัวเล่นต่อสู้กับตัวเล่นอื่นที่กำหนดไว้ในเครื่องเล่น ขณะเล่นจะมีจำนวนแต้มหรือจำนวนคะแนนปรากฎขึ้นที่จอภาพของเครื่องเล่นใช้เวลาประมาณ 1 นาที ซึ่งจะมีฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายแพ้ ถ้าคะแนนของผู้เล่นเป็นฝ่ายชนะ คอมพิวเตอร์ก็จะให้ผู้เล่นเล่นได้ใหม่อีก 1 ครั้ง เครื่องเล่นดังกล่าวโดยปกติจะเล่นคราวละ 1 คน แต่ก็สามารถเล่นคราวละ 2 คนได้ด้วย ผลตอบแทนจากการเล่นตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้ ผู้เล่นจะได้รับความเพลิดเพลินจากข้อนำสืบของโจทก์แสดงว่า โดยสภาพของตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้เป็นเครื่องเล่นเกมส์ที่มุ่งประสงค์จะให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินและเพิ่มทักษะให้แก่ผู้เล่นเพียงอย่างเดียวมิได้มุ่งประสงค์ให้ใช้เป็นเครื่องเล่นการพนันแต่อย่างใด แม้ผู้เล่นจะต้องหยอดเหรียญชนิดราคา 5 บาท หรือชนิดราคา 10 บาทเข้าไปในเครื่องก่อนที่ผู้เล่นจะเริ่มเล่นเพื่อให้เครื่องทำงานดังที่โจทก์นำสืบก็ตาม แต่การหยอดเหรียญดังกล่าวก็ถือได้ว่าผู้เล่นได้จ่ายเงินจำนวนนั้นเป็นค่าตอบแทนการเล่นเท่านั้นเงินที่ว่านี้หาใช่เงินสินพนันไม่ส่วนที่เกมส์มีการต่อสู้และมีการแพ้ชนะกันระหว่างตัวเล่นทั้งมีจำนวนแต้มหรือจำนวนคะแนนปรากฎขึ้นที่จอภาพของเครื่องเล่นก็เป็นเรื่องเนื้อหาของเกมส์การเล่นแต่ละประเภทที่ผู้คิดสร้างสรรค์เกมส์ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินหรือเพื่อฝึกทักษะของผู้เล่น หากผู้เล่นไม่นำเอาผลแพ้ชนะของตัวเล่นเกมส์ดังกล่าวไปเล่นการพนันเพื่อการแพ้ชนะกันระหว่างบุคคลซึ่งเป็นผู้เล่นด้วยกันหรือบุคคลอื่นตั้งแต่2 ฝ่ายขึ้นไป เกมส์นั้นก็มิใช่เกมส์การพนันแต่อย่างใด เมื่อตู้วีดีโอเกมส์ของกลางทั้งสองตู้มิได้มีคุณสมบัติที่มีไว้เพื่อใช้เป็นเครื่องเล่นการพนันโดยเฉพาะเพียงอย่างเดียว ตู้วีดีโอเกมส์ของกลาง ทั้งสองตู้ดังกล่าวก็มิใช่เครื่องเล่นการพนันที่ผู้เล่นจะต้องมีความผิดตามที่ระบุไว้ในบัญชี ข อันดับที่ 28ท้ายพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ซึ่งแก้ไขโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 23 (พ.ศ. 2530) ออกตามความในพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 ดังที่โจทก์ฟ้อง การกระทำของจำเลยทั้งสามเป็นเหตุในลักษณะคดี แม้จำเลยที่ 1 จะมิได้ฎีกาขึ้นมาก็ตาม แต่อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 213 ประกอบด้วยมาตรา 225 ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษายกฟ้องถึงจำเลยที่ 1 ได้ด้วย ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามตามฟ้องนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ คืนของกลางทั้งหมดแก่เจ้าของ

Share