คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อศาลมิได้พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทได้ ไม่ว่าที่พิพาทจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์หรือไม่ก็ตาม

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองบังอาจร่วมกันบุกรุกเข้าไปในป่าเขาน้ำโจนซึ่งเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เข้าครอบครองที่ดินและแผ้วถางป่าดังกล่าว ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๐๓ มาตรา ๒๔, ๔๔, ๔๗ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๒๘ พ.ศ. ๒๕๑๕ ข้อ ๑๖, ๑๗ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ ริบจอบของกลาง ให้จำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่จำเลยร่วมกันครอบครองยึดถือและแผ้วถาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ไม่ริบของกลาง แต่ให้จำเลยและบริวารออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่จำเลยร่วมกันครอบครองยึดถือและแผ้วถาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า นายบุญช่วยได้ครอบครองที่พิพาทก่อนพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๐๓ ใช้บังคับ และพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๐๗ จะกำหนดให้ที่ดินที่จำเลยทั้งสองครอบครองอยู่ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไม่ได้ และจำเลยที่ ๑ ได้ซื้อที่พิพาทจากนายบุญช่วยโดยเข้าครอบครองต่อจากนายบุญช่วยตลอดมา การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้องศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าพิพากษาแก้เป็นว่า ไม่บังคับจำเลยทั้งสองและบริวารออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่จำเลยร่วมกันครอบครองยึดถือและแผ้วถาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในชั้นนี้มีปัญหาแต่เพียงว่าจำเลยและบริวารจะต้องออกไปจากที่พิพาทหรือไม่เท่านั้น พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๔๐๓ มาตรา ๔๔ ที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว บัญญัติในวรรคสองว่า “ในกรณีที่ศาลพิพากษาว่าผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา ๒๔ ถ้าปรากฏว่าผู้นั้นได้ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าที่ตนได้กระทำความผิด ศาลมีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำความผิด คนงาน ผู้รับจ้าง ผู้แทนและบริวารของผู้กระทำความผิดออกไปจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นได้” คดีนี้ศาลมิได้พิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๐๓ ในทางตรงกันข้าม ศาลพิพากษาว่าจำเลยไม่มีความผิดตามมาตราดังกล่าว ศาลจึงไม่มีอำนาจสั่งให้จำเลยและบริวารออกไปจากที่พิพาทได้ ไม่ว่าที่พิพาทจะเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือไม่
พิพากษายืน

Share