คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 533/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรได้ระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรแล้วคณะกรรมการจะต้องระบุเขตท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมดเป็นท้องที่สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร เมื่อคณะกรรมการยังมิได้กำหนดให้ปรากฏชัดแล้วประกาศห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตเข้าไปในเขตท้องที่ ที่จะสั่งห้ามจึงแสดงว่ามิได้ปฏิบัติการตามลำดับก่อนหลังดังกฎหมายกำหนดไว้ประกาศของคณะกรรมการในกรณีนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 มาตรา 6, 8, 10, 17 พระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำผิด พ.ศ. 2489 มาตรา 4, 5, 6, 7, 8, 9 ประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดนราธิวาสฉบับที่ 1 พ.ศ. 2510 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และขอให้สั่งคืนโคของกลางแก่จำเลย และสั่งจ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าพนักงานผู้จับตามกฎหมาย

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ประกาศของคณะกรรมการป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดนราธิวาส ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการค้ากำไรเกินควร แต่เพื่อป้องกันมิให้ลักลอบนำโคกระบือมีชีวิตไปยังประเทศมาเลเซีย ประกาศของคณะกรรมการจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายที่อาศัยเป็นหลัก ใช้บังคับไม่ได้ พิพากษายกฟ้องโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ประกาศของคณะกรรมการมิได้ระบุห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของที่ประกาศนั้นในเขตท้องที่ใด ข้อความในข้อ 3 ข้อ 4 ข้อ 5 แห่งประกาศของคณะกรรมการเป็นเพียงกำหนดเขตห้ามการเคลื่อนย้ายสิ่งของ อันเป็นการวางระเบียบหรือห้ามการส่งออกไปนอกหรือนำเข้ามาในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 8(6)เท่านั้น จึงแสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาส มิได้ปฏิบัติตามลำดับก่อนหลังดังที่กฎหมายกำหนดไว้ ประกาศคณะกรรมการในคดีนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมายพิพากษายืน ยกอุทธรณ์โจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ประกาศของคณะกรรมการซึ่งมีข้อความว่า

เรื่องกำหนดประเภทสิ่งของและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 มาตรา 8 และมาตรา 10 แห่ง พระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 คณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรจังหวัดนราธิวาส ออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควร จังหวัดนราธิวาส ฉบับที่ 1/2506 ลงวันที่ 6 ธันวาคม 2506

ข้อ 2 ชื่อและประเภทสิ่งของที่ควบคุมและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรตามประกาศนี้ คือ

ก. โคมีชีวิต

ข. กระบือมีชีวิต

ข้อ 3 ห้ามมิให้ผู้ใดเคลื่อนย้ายโคและกระบือมีชีวิตเข้าไปในจังหวัดนราธิวาส เว้นแต่จะได้รับหนังสืออนุญาตจากประธานกรรมการส่วนจังหวัดป้องกันการค้ากำไรเกินควรหรือผู้รักษาการแทน ฯลฯ นั้น

ประกาศตามข้อ 2 ได้ประกาศโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันการค้ากำไรเกินควร พ.ศ. 2490 มาตรา 8 ข้อความในมาตรา 8มุ่งหมายให้คณะกรรมการมีอำนาจระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในสิ่งของนั้นในเขตท้องที่ที่อยู่ในอำนาจท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมด เมื่อปฏิบัติดังกล่าวนี้แล้ว จึงให้มีอำนาจสั่งการเกี่ยวกับสิ่งของที่ห้ามตามที่เห็นสมควร และในคดีนี้จะเห็นได้จากประกาศข้อ 3 ซึ่งสั่งการโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 8(6)

ส่วนที่ว่าประกาศของคณะกรรมการได้ระบุห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรทั่วทุกเขตท้องที่ในจังหวัดนราธิวาสหรือไม่นั้น เห็นว่าประกาศของคณะกรรมการมิได้ระบุห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมดของจังหวัดนราธิวาส ตามประกาศข้อ 2 คงมีข้อความเพียงระบุชื่อประเภทสิ่งของและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร จะอนุโลมข้อความในประกาศข้อ 2 ว่าเป็นการกำหนดเขตท้องที่ที่ควบคุมและห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร ก็ปรากฏชัดว่าข้อความตามประกาศข้อ 3 เป็นเรื่องที่คณะกรรมการได้สั่งการไปตามมาตรา 8(6)คือวางระเบียบหรือห้ามการส่งออกไปนอกหรือนำเข้ามาในท้องที่ใดท้องที่หนึ่ง ไม่ใช่การกำหนดท้องที่ที่สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร

ในประกาศของคณะกรรมการข้อ 4 ข้อ 5 ได้กำหนดเขตท้องที่ที่อยู่ในอำนาจออกเป็นหลายท้องที่ ฉะนั้นเมื่อคณะกรรมการได้ระบุชื่อหรือประเภทสิ่งของและสั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควรแล้ว คณะกรรมการจะต้องระบุเขตท้องที่ใดท้องที่หนึ่งหรือทั้งหมดเป็นท้องที่สั่งห้ามมิให้ค้ากำไรเกินควร เมื่อคณะกรรมการยังมิได้กำหนดให้ปรากฏชัด แล้วประกาศห้ามเคลื่อนย้ายโคกระบือมีชีวิตเข้าไปในจังหวัดนราธิวาสจึงแสดงว่ามิได้ปฏิบัติการตามลำดับก่อนหลังดังกฎหมายกำหนดไว้ประกาศของคณะกรรมการในกรณีนี้จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share