คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5274/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในระหว่างปิดงาน การทำงานได้ยุติลงชั่วคราวไม่มีวันทำงานไม่มีวันลา และไม่มีวันหยุดตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานฯ นายจ้างไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างในวันทำงานตามปกติและค่าจ้างในวันหยุดให้แก่ลูกจ้าง ดังนั้น เมื่อระหว่างปิดงานมีวันหยุดตามประเพณีอยู่ด้วย จำเลย ผู้เป็นนายจ้างจึงไม่ต้องรับผิดจ่ายค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณีให้แก่โจทก์ลูกจ้าง

ย่อยาว

โจทก์สองร้อยสิบเอ็ดคนฟ้องว่า จำเลยได้มีคำสั่งปิดงานตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน 2530 ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2530 ระหว่างปิดงานมีวันหยุดตามประเพณี3 วัน เมื่อจำเลยเปิดงานจำเลยไม่จ่ายค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณีให้โจทก์ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า จำเลยปิดงานโดยชอบ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างสำหรับวันหยุดตามประเพณีระหว่างปิดงาน

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองร้อยสิบเอ็ดคนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์พ.ศ. 2518 มาตรา 5 วรรคหก ได้นิยามคำว่า การปิดงานไว้ว่าหมายถึงการที่นายจ้างปฏิเสธไม่ยอมให้ลูกจ้างทำงานชั่วคราว เนื่องจากข้อพิพาทแรงงาน ซึ่งการที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างปิดงานโดยชอบด้วยพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518อันเป็นมาตรการที่จำเลยผู้เป็นนายจ้างมีสิทธิที่จะกระทำได้เพื่อบีบบังคับให้โจทก์ผู้เป็นลูกจ้างจำต้องยอมตามข้อเรียกร้องของจำเลย โดยจำเลยไม่ยอมให้โจทก์ทำงานชั่วคราว และไม่จ่ายค่าจ้างให้โจทก์ในระหว่างปิดงานก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ดังนั้นในระหว่างปิดงานดังกล่าว การทำงานได้ยุติลงชั่วคราว ไม่มีวันลาและไม่มีวันหยุด ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน 2515หมวด 1 ว่าด้วยการใช้แรงงานทั่วไป จำเลยผู้เป็นนายจ้างึงไม่มีหน้าที่ต้องจ่ายค่าจ้างในวันทำงานตามปกติรวมถึงค่าจ้างในวันหยุดให้แก่โจทก์ผู้เป็นลูกจ้างในระหว่างปิดงานเพราะการทำงานได้ยุติชั่วคราวเสียแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า วันที่ 1, 5 และ 8พฤษภาคม 2530 อันเป็นวันหยุดตามประเพณีอยู่ในช่วงระหว่างจำเลยปิดงานด้วยแล้วจำเลยก็หาต้องรับผิดจ่ายค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณีดังกล่าวให้แก่โจทก์ทั้งสองร้อยสิบเอ็ดคนไม่

พิพากษายืน

Share