แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การแลกเปลี่ยนที่ดินแม้มิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ที่ดินที่ตกลงแลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3ก.)โจทก์ที่2ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอนอนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองเกิน1ปีแล้วจำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามป.พ.พ.มาตรา1375 การแลกเปลี่ยนที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3)โดยต่างฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันผู้แลกเปลี่ยนไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2521 โจทก์ ที่ 1 ตกลงเอาที่ดิน น.ส. 3 ก. ของโจทก์แลกเปลี่ยนกับที่ดินเฉพาะส่วนตามน.ส. 3 ก. ของจำเลย การตกลงดังกล่าวไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่โจทก์ที่ 2 ซึ่งเป็นบุตรเขยเข้าไปปลูกบ้านอยู่อาศัยในที่ดินของจำเลย และจำเลยเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของโจทก์ที่ 1 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2525 จำเลยจะเอาที่ดินคืนโดยขับไล่ให้โจทก์รื้อบ้านไป โจทก์แจ้งให้จำเลยแบ่งแยกที่ดินตามที่ตกลงแลกเปลี่ยนกัน จำเลยเพิกเฉย ขอให้พิพากษาว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่ดิน น.ส. 3 ก. เลขที่ 1497 ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา เฉพาะส่วนเนื้อที่ 1 งาน 4 ตารางวา ให้จำเลยไปจดทะเบียนแบ่งแยกให้โจทก์และให้จำเลยรับโอนที่ดินของโจทก์ตาม น.ส. 3 ก. เลขที่ 438 ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงเจตนาแทน
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่เคยตกลงแลกเป
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า จำเลยไม่เคยตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกับโจทก์ เมื่อ พ.ศ. 2522 โจทก์ที่ 2 ได้มาอาศัยปลูกบ้านในที่ดินของจำเลย เมื่อ พ.ศ. 2524 โจทก์ที่ 1 กู้เงินจำเลยไป 2,000 บาทโดยมอบ น.ส. 3 ก. ให้ยึดถือไว้เป็นประกัน ประมาณเดือนมกราคม2525 โจทก์ที่ 1 เอาเงินมาคืนแล้วไม่ยอมรับเอา น.ส. 3 ก.หลักประกันคืนโดยจะฉ้อโกงจำเลยอ้างว่าได้แลกเปลี่ยนกับที่ดินของจำเลย จำเลยไม่เคยส่งมอบที่ดินให้โจทก์ครอบครอง การแลกเปลี่ยนที่ดินไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้องโจทก์และขอให้โจทก์ที่ 2 กับบริวารออกไปจากที่ดินของจำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องว่า โจทก์ที่ 1 ไม่เคยกู้เงินจำเลย โจทก์ที่ 2 ไม่เคยขออาศัยปลูกบ้านในที่ดินของจำเลย โจทก์ที่ 1 กับจำเลยตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกัน โจทก์ที่ 1 มอบ น.ส.3 ก. ให้จำเลย ส่วนจำเลยจะจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินให้ดจทก์ภายหลัง ต่อฝ่ายต่างเข้าครอบครองที่ดินของอีกฝ่ายหนึ่งที่แลกเปลี่ยนกันตลอดมาตั้งแต่พ.ศ. 2521 จำเลยมิได้ใช้สิทธิเรียกร้องที่ดินคืนภายใน 1 ปี โจทก์ที่ 2 ได้สิทธิครอบครอง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าโจทก์ที่ 2 มีสิทธิครอบครองที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 1496 ตำบลโคกสูง อำเภอเมืองนครราชสีมาจังหวัดนครราชสีมา เฉพาะส่วนเนื้อที่ 1 งาน 4 ตารางวา ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งแยกให้โจทก์ที่ 2 และให้จำเลยจดทะเบียนรับโอนที่ดิน น.ส.3 ก. เลขที่ 438 ตำบลโคกสูงอำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา จากโจทก์ที่ 1 หากจำเลยไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา ฟ้องแย้งของจำเลยให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่า กรณีน่าเชื่อว่า โจทก์จำเลยได้ตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินกันจริง แม้การแลกเปลี่ยนที่ดินมิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แต่ที่ดินที่แลกเปลี่ยนกันเป็นที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.) โจทก์ที่ 2 ได้ครอบครองอย่างเป็นเจ้าของมีเขตแน่นอนอนึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ด้วยว่าโจทก์ได้ครอบครองจนเกิน 1 ปีแล้ว จำเลยย่อมหมดสิทธิเอาคืนซึ่งการครอบครองตามนัยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375 ที่ศาลล่างทั้งสองฟังว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นฟ้องด้วย ฎีกาของจำเลยเรื่องนี้ฟังไม่ขึ้น แต่ที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนแบ่งแยกน.ส.3 ส่วนที่พิพาทให้โจทก์และให้จำเลยรับโอนที่ดินตาม น.ส.3ของโจทก์นั้น เห็นว่าจำเลยไม่มีหน้าที่ทางนิติกรรมที่จะต้องจดทะเบียนแบ่งแยกให้หรือรับโอน จึงบังคับคดีตามคำขอในส่วนนี้มิได้
พิพากษาแก้เป็นให้ยกคำของโจทก์ที่ขอให้จำเลยจดทะเบียนแบ่งแยกและรับโอนที่ดินของโจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.