คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6080/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยกับพวกมีเจตนาลักหม้อแปลงไฟฟ้าของผู้เสียหายโดยปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแล้วใช้เลื่อยตัดสายลวดสลิงที่ยึดหม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าว เมื่อหม้อแปลงไฟฟ้าเคลื่อนจากจุดที่ติดตั้งเดิมบนคานเสาไฟฟ้าและถูกเคลื่อนย้ายมาอยู่บนพื้นดิน ถือว่าเป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าอันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว แม้จำเลยกับพวกจะยังไม่ทันยกหม้อแปลงไฟฟ้าขึ้นรถยนต์กระบะของจำเลยเพราะหม้อแปลงไฟฟ้ามีน้ำหนักมากก็ตาม หาใช่เป็นเพียงพยายามลักทรัพย์ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยกับพวกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ , ๘๓ , ๓๓๕ , ๓๓๖ ทวิ และริบเลื่อยเหล็กของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ , ๓๓๕ (๗) วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา ๓๓๖ ทวิ ให้ลงโทษจำคุก ๖ ปี ส่วนที่โจทก์ขอให้ริบเลื่อยเหล็กของกลางนั้น ศาลมีคำพิพากษาให้ริบในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๘๕/๒๕๔๔ ของศาลชั้นต้น แล้ว คำขอนี้จึงให้ยกเสีย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยกับพวกมีเจตนาลักหม้อแปลงไฟฟ้าของผู้เสียหายโดยขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าแล้วใช้เลื่อยตัดสายลวดสลิงที่ยึดหม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าว ใช้เชือกผูกผลักลงจากคานบนเสาไฟฟ้า เมื่อหม้อแปลงไฟฟ้าเคลื่อนจากจุดที่ติดตั้งเดิมและถูกเคลื่อนมาอยู่บนพื้นดินถือว่าเป็นการเอาไปซึ่งทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้า อันเป็นความผิดฐานลักทรัพย์สำเร็จแล้ว แม้จำเลยกับพวกจะยังไม่ทันยกหม้อแปลงไฟฟ้าขึ้นรถยนต์กระบะของจำเลยเพราะหม้อแปลงไฟฟ้ามีน้ำหนักมากก็ตาม หาใช่เป็นเพียงพยายามลักทรัพย์ไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานลักทรัพย์และลงโทษมานั้น ชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share