แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ขณะที่ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการโดยมิได้ให้การถึงคำพิพากษาอันถึงที่สุดในคดีก่อนที่โจทก์ขอให้บวกโทษ ถือได้ว่าจำเลยได้รับว่าเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกและรอการลงโทษไว้จริงตามฟ้องด้วย ประกอบกับจำเลยยอมรับในอุทธรณ์ว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีดังกล่าว ที่ศาลชั้นต้นบวกโทษจำคุกในคดีก่อนเข้ากับคดีนี้จึงชอบแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔ , ๗ , ๘ , ๑๕ , ๖๗ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๘ และขอให้บวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีทั้งสองเรื่องดังกล่าวเข้ากับโทษของจำเลยคดีนี้ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง , ๖๗ จำคุก ๑ ปี จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ เดือน บวกโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้น รวมจำคุก ๑๒ เดือน ส่วนคดีอาญาหมายหมายเลขแดงที่ ๕๒๗๒/๒๕๔๓ ของศาลชั้นต้นนั้น จำเลยกระทำความผิดคดีนี้ก่อนศาลพิพากษาคดีดังกล่าว จึงไม่อาจบวกโทษได้ ยกคำขอส่วนนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่นำโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้นมาบวกกับโทษในคดีนี้ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ที่โจทก์ฎีกาขอให้บวกโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษในคดีนี้นั้น เห็นว่า แม้ขณะที่ศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ทุกประการโดยมิได้ให้การถึงคำพิพากษาอันถึงที่สุดในคดีก่อนที่โจทก์ขอให้บวกโทษก็ตาม ก็ถือได้ว่า จำเลยได้รับว่าเคยถูกศาลพิพากษาจำคุกและรอการลงโทษไว้จริงตามฟ้องด้วย ทั้งเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยและบวกโทษในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ เข้ากับคดีนี้แล้ว จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นที่ลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษ และกล่าวถึงเรื่องที่จำเลยถูกจับไปดำเนินคดีตามสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ ของศาลชั้นต้น อันเป็นการยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาดังกล่าวอีกด้วย ดังนั้น ที่ศาลชั้นต้นบวกโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ เข้ากับคดีนี้จึงชอบแล้ว คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๑ ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคหนึ่ง (เดิม) , ๖๗ (ที่แก้ไขใหม่) ให้จำคุก ๑ ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ เดือน ให้บวกโทษในสำนวนคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๖๔๒/๒๕๔๒ เข้ากับโทษในคดีนี้ เป็นจำคุก ๑๒ เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค ๑.