คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5249/2542

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยเป็นบรรณาธิการมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำ ตรวจแก้ คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์ ส. มิให้บทประพันธ์หรือข้อความที่ลงพิมพ์กระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นหรือขัดต่อจรรยาบรรณของหนังสือพิมพ์ และต้องไม่ผิดต่อกฎหมาย หากมีข้อความใดละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นหรือผิดต่อกฎหมาย จำเลยต้องรับผิดเสมือนหนึ่งจำเลยเขียนข้อความนั้นด้วยตนเอง การที่หนังสือพิมพ์ ส.ลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่า โจทก์มีความสัมพันธ์ทางเพศกับ ศ. อันเป็นความเท็จและเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ทั้งข้อความที่หมิ่นประมาทโจทก์ยังส่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่เป็นการสร้างสรรค์และขัดต่อจรรยาบรรณของหนังสือพิมพ์ แม้การลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 3 เดือน จะไม่เกิดผลในการแก้ไขให้จำเลยกลับตัวเป็นคนดีได้ก็ตาม แต่การลงโทษจำคุกระยะสั้นก็ยังทำให้จำเลยหลาบจำและเป็นการปรามผู้อื่นมิให้กระทำผิดได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326, 328 และ 332 กับให้จำเลยลงโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์รายวันไทยรัฐ เดลินิวส์ ข่าวสด มติชน และหนังสือพิมพ์สยามบันเทิงรายสัปดาห์เป็นเวลา ฉบับละ 7 วัน โดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2643/2540 ของศาลชั้นต้นและคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2608/2540 ของศาลจังหวัดกำแพงเพชร

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้อง

จำเลยให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณาหนังสือพิมพ์สยามบันเทิงรายสัปดาห์ฉบับที่โจทก์ฟ้อง และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 จำคุก 3 เดือน และปรับ 30,000 บาท จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อนเห็นสมควรรอการลงโทษมีกำหนด 1 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และ 30 และให้จำเลยลงพิมพ์โฆษณาคำพิพากษาเฉพาะส่วนคำวินิจฉัยในหนังสือพิมพ์ “สยามบันเทิง” รายสัปดาห์เป็นเวลา 7 วัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่โจทก์ขอให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2643/2540 ของศาลชั้นต้น และคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2608/2540 ของศาลจังหวัดกำแพงเพชร เมื่อคดีนี้ศาลรอการลงโทษจึงไม่มีโทษจำคุกที่จะนับต่อคำขออื่นให้ยก

โจทก์อุทธรณ์ขอให้ไม่รอการลงโทษ

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษให้จำเลยและไม่ปรับนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุก

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยเป็นบรรณาธิการมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดทำตรวจแก้คัดเลือก หรือควบคุมบทประพันธ์หรือสิ่งอื่นในหนังสือพิมพ์มิให้บทประพันธ์หรือข้อความที่ลงพิมพ์กระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นหรือขัดต่อจรรยาบรรณของหนังสือพิมพ์และต้องไม่ผิดต่อกฎหมาย หากมีข้อความใดละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นหรือผิดต่อกฎหมายจำเลยต้องรับผิดเสมือนหนึ่งจำเลยเขียนข้อความนั้นด้วยตนเอง การที่หนังสือพิมพ์ “สยามบันเทิง” รายสัปดาห์ลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ทำให้บุคคลอื่นเข้าใจว่าโจทก์มีความสัมพัน์ทางเพศกับนายศรรามอันเป็นความเท็จและเป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน อีกทั้งข้อความในกรอบข่าวที่ลงข้อความหมิ่นประมาทโจทก์ยังส่อไปในทางลามกอนาจาร ไม่เป็นการสร้างสรรค์และขัดต่อจรรยาบรรณของหนังสือพิมพ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 3 เดือน ไม่เกิดผลในการแก้ไขให้จำเลยกลับตัวเป็นคนดีได้ก็ตาม แต่การลงโทษจำคุกระยะสั้นก็ยังทำให้จำเลยหลาบจำและเป็นการปรามผู้อื่นมิให้กระทำผิดเช่นเดียวกับจำเลย ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รอการลงโทษให้จำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share