แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
จำเลยได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการ THE HIDE-AWAY และรูปภาพเด็กนอนพิงผลมะนาว (LEMON BABY) จากบริษัทไฮด์อะเวย์ กรุ๊ป (1991) จำกัด มีกำหนดเวลา 5 ปี นับแต่วันทำสัญญาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2541 ตั้งแต่วันที่โจทก์รับโอนเครื่องหมายบริการดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2545 ถึงวันที่โจทก์ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2546 ก็ยังอยู่ในช่วงเวลาของอายุสัญญาดังกล่าว แม้สัญญาจะเป็นโมฆะเพราะไม่ได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าฯ มาตรา 68 วรรคสอง ประกอบมาตรา 80 ก็ตาม แต่เนื้อความในสัญญาที่อนุญาตให้จำเลยใช้ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการหายใจภายใต้เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้า “The Hide Away Thai Herbal Steam Sauna” ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าของผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิ ย่อมทำให้จำเลยผู้ได้รับอนุญาตเข้าใจและเชื่อโดยสุจริตว่าตนสามารถใช้เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้าดังกล่าวได้เนื่องจากกระทำภายใต้เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้ากับใช้ผลิตภัณฑ์ของผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิ ยิ่งกว่านั้นหลังจากบริษัทผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิโอนเครื่องหมายบริการดังกล่าวให้บริษัทไฮด์อะเวย์ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด จำเลยกับบริษัทผู้รับโอนเครื่องหมายดังกล่าวก็ยังคงปฏิบัติตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธินี้ด้วยดีตลอดมา ยิ่งทำให้จำเลยเชื่อเช่นนั้น ฉะนั้น การที่จำเลยโฆษณาการให้บริการลูกค้าของจำเลยโดยใช้แผ่นป้ายโฆษณาที่มีเครื่องหมายบริการของโจทก์ในช่วงเวลาก่อนโจทก์ร้องทุกข์จึงไม่เป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายบริการเสียหายและถือไม่ได้ว่าจำเลยละเมิดเครื่องหมายบริการของโจทก์โดยนำไปโฆษณา ขายหรือเพื่อขายธุรกิจบริการของจำเลยในแผ่นป้ายโฆษณา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 800,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ และให้จำเลยหยุดทำการละเมิดเครื่องหมายบริการของโจทก์
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายบริการอักษรประดิษฐ์คำว่า “THE HIDE-AWAY” มีรูปภาพเด็กนอนพิงผลมะนาว (LEMON BABY) โดยโจทก์ได้รับโอนเครื่องหมายบริการนี้จากบริษัทไฮด์อะเวย์ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด ก่อนหน้านี้บริษัทดังกล่าวได้รับโอนเครื่องหมายบริการนี้มาจากบริษัทไฮด์อะเวย์ กรุ๊ป (1991) จำกัด จำเลยเปิดดำเนินการกิจการสปา นวดแผน โบราณ อบไอน้ำ และอบสมุนไพรตั้งแต่เดือนธันวาคม 2541 ต่อมาวันที่ 16 มกราคม 2546 โจทก์ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ให้ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยในข้อหาเลียนเครื่องหมายบริการดังกล่าวของโจทก์ด้วยการทำเครื่องหมายบริการของโจทก์ และนำเครื่องหมายบริการหรือรูปรอยประดิษฐ์ในการประกอบการค้าของโจทก์ไปใช้กับการให้บริการอบไอน้ำสมุนไพรไทยของจำเลย ทำให้ประชาชนสับสนหลงผิดในความเป็นเจ้าของหรือหลงเชื่อว่าเครื่องหมายบริการที่จำเลยใช้เป็นเครื่องหมายบริการของโจทก์ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า จำเลยละเมิดเครื่องหมายบริการของโจทก์ด้วยการนำไปโฆษณาขายหรือเพื่อขายธุรกิจบริการอาบ อบไอน้ำด้วยสมุนไพรไทยเพื่อแสวงหากำไรในทางการค้าของจำเลยหรือไม่ เห็นว่า คดีคงมีปัญหาวินิจฉัยเฉพาะปัญหาว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยนำไปโฆษณาด้วยแผ่นป้ายโฆษณาหรือไม่เท่านั้น เพราะโจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดโดยนำไปโฆษณา แล้วจับกุมกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทจำเลยได้พร้อมแผ่นป้ายโฆษณาเลียนเครื่องหมายบริการของโจทก์เป็นของกลาง และจำเลยให้การต่อสู้ว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นละเมิด เพราะจำเลยได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิจากเจ้าของเครื่องหมายบริการแล้วส่วนที่โจทก์นำสืบว่าจำเลยกระทำละเมิดโดยนำเครื่องหมายบริการของโจทก์ไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์หรือเว็บไซด์ในอินเตอร์เน็ตก็ดี และศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกปัญหานี้ขึ้นวินิจฉัยนั้น เห็นว่า เป็นการนำสืบและเป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น เพราะไม่ปรากฏว่าโจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยละเมิดโดยการโฆษณาในอินเตอร์เน็ต แม้จำเลยไม่ยกข้อนี้ขึ้นกล่าวในคำแก้อุทธรณ์ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 45 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 (5), 246
สำหรับปัญหาว่า จำเลยละเมิดเครื่องหมายบริการของโจทก์โดยนำไปโฆษณาขายหรือเพื่อขายด้วยแผ่นป้ายโฆษณาหรือไม่ นั้น เห็นว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการนี้จากบริษัทไฮด์อะเวย์ กรุ๊ป (1991) จำกัด มีกำหนดเวลา 5 ปี นับแต่วันทำสัญญาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2541 ตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ตั้งแต่วันที่โจทก์รับโอนเครื่องหมายบริการดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2545 ถึงวันที่โจทก์ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2546 ก็ยังอยู่ในช่วงเวลาอายุของสัญญาดังกล่าว แม้สัญญาจะเป็นโมฆะเพราะไม่ได้จดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 68 วรรคสอง ประกอบมาตรา 80 ก็ตาม แต่เนื้อความในสัญญาที่อนุญาตให้จำเลยใช้ข้อมูลทางเทคนิคเกี่ยวกับการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการหายใจภายใต้เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้า “The Hide Away Thai Herbal Steam Sauna” ซึ่งใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าของผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิ ย่อมทำให้จำเลยผู้รับอนุญาตเข้าใจและเชื่อโดยสุจริตว่าตนสามารถใช้เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้าดังกล่าวได้เนื่องจากกระทำภายใต้เครื่องหมายบริการและชื่อทางการค้ากับใช้ผลิตภัณฑ์ของผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิยิ่งกว่านั้นหลังจากบริษัทผู้อนุญาตให้ใช้สิทธิโอนเครื่องหมายบริการดังกล่าวให้บริษัทไฮด์อะเวย์ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด จำเลยกับบริษัทผู้รับโอนเครื่องหมายดังกล่าวก็ยังคงปฏิบัติตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธินี้ด้วยดีตลอดมา ยิ่งทำให้จำเลยเชื่อเช่นนั้น ฉะนั้น การที่จำเลยโฆษณาการให้บริการลูกค้าของจำเลยโดยใช่แผ่นป้ายโฆษณาที่มีเครื่องหมายบริการของโจทก์ในช่วงเวลาก่อนโจทก์ร้องทุกข์จึงไม่เป็นการจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องหมายบริการเสียหาย ส่วนในช่วงเวลานับแต่โจทก์ร้องทุกข์ไปจนถึงโจทก์นำเจ้าพนักงานตำรวจไปจับกุมกรรมการบริษัทจำเลย โจทก์เบิกความตอบคำถามค้านว่า หลังร้องทุกข์โจทก์กับกรรมการบริษัทจำเลยเจรจากันต่อหน้าพนักงานสอบสวน ตกลงกันให้จำเลยเลิกใช้เครื่องหมายบริการตั้งแต่ประมาณต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2546 ต่อมาในวันจับกุมกรรมการบริษัทจำเลย โจทก์ไม่พบเห็นแผ่นป้ายโฆษณาที่ใช้เครื่องหมายบริการของโจทก์อยู่ที่สถานประกอบการของจำเลย แสดงว่าจำเลยเลิกใช้เครื่องหมายการบริการของโจทก์ไปก่อนโจทก์นำเจ้าพนักงานตำรวจไปจับกุมกรรมการบริษัทจำเลยแล้ว ดังนี้ข้อเท็จจริงจึงรับฟังไม่ได้ว่าจำเลยละเมิดเครื่องหมายบริการของโจทก์โดยนำไปโฆษณาขายหรือเพื่อขายธุรกิจบริการของจำเลยในแผ่นป้ายโฆษณาเมื่อประมาณกลางปี 2546 ดังที่โจทก์ฟ้อง อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน