แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่งและลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำเลยที่ 2ย่อมไม่อาจเป็นผู้กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในความผิดฐานนี้ได้ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดี ศาลฎีกาย่อมพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2541 เวลากลางวันจำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ชนิดเมทแอมเฟตามีนจำนวน 99 เม็ด น้ำหนัก 6.93 กรัม โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83 ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง (ที่ถูกมาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง) ลงโทษจำคุก 5 ปี จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 66 วรรคหนึ่ง (ที่ถูก มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ลงโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน คำให้การชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนของจำเลยที่ 1 และคำให้การชั้นจับกุมของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 ปี 4 เดือน และจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด2 ปี 2 เดือน 20 วัน ริบเมทแอมเฟตามีนกระดาษสา หลอดพลาสติก และกรรไกรของกลาง ข้อหาและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก คืนธนบัตรจำนวน 3,220 บาท ของกลางให้แก่เจ้าของ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง และลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86 เมื่อศาลฎีกาฟังว่าจำเลยที่ 1 ไม่มีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำเลยที่ 2 ย่อมไม่อาจเป็นผู้กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในความผิดฐานนี้ได้ซึ่งเป็นเหตุในส่วนลักษณะคดีศาลฎีกาย่อมพิพากษาไปถึงจำเลยที่ 2 ซึ่งมิได้อุทธรณ์ฎีกาได้ ส่วนกระดาษสา หลอดพลาสติกและกรรไกรไม่ใช่เครื่องมือเครื่องใช้ในการกระทำความผิดคดีนี้จึงไม่อาจริบได้”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 เสียด้วยและไม่ริบกระดาษสา หลอดพลาสติกและกรรไกรของกลาง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7