คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 521/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าในพินัยกรรมที่ ด. ทำไว้มีข้อความว่า ด. ได้ขายที่พิพาทให้จำเลยหมดทั้งแปลง โจทก์ยอมแพ้ แต่ถ้าไม่มีข้อความดังกล่าว จำเลยยอมแพ้ จำเลยได้ส่งเอกสารต่อศาล 1 ฉบับ โจทก์ตรวจดูแล้วแถลงว่าไม่ใช่พินัยกรรมที่คู่ความตกลงท้ากัน พินัยกรรมตามที่ท้ากันมีอีกต่างหาก จำเลยแถลงยืนยันว่าเป็นเอกสารตามที่ตกลงท้า ดังนี้ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารที่จำเลยส่งเอกสารจึงยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ ศาลต้องไต่สวนให้ได้ความจริงว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่คู่ความตกลงท้ากันหรือไม่เสียก่อน แล้วจึงจะชี้ขาดคดีไปตามคำท้าได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และภรรยาจำเลยเป็นบุตรนายโกก นางแดง นายโกกตายก่อนนางแดง นางแดงตายเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕ ก่อนตายนางแดงมีที่ดิน ๑ แปลง ได้ให้จำเลยแจ้งการครอบครองและขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์แทน นางแดงได้ทำพินัยกรรมให้จำเลยถือไว้เพื่อแบ่งที่ดินให้แก่ทายาท เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๑๖ โจทก์ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกล่าวหาว่าจำเลยโกงทรัพย์มรดก พนักงานสอบสวนไกล่เกลี่ยแล้ว จำเลยยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์และนายเพิ่ม ปรากฏตามบันทึกของพนักงานสอบสวนท้ายฟ้อง ต่อมาจำเลยไม่ยอมแบ่งที่ดินให้โจทก์ขอให้ศาลพิพากษาแบ่งที่ดินพิพาทออกเป็น ๓ ส่วนเท่า ๆ กัน ให้โจทก์ นายเพิ่ม และจำเลยคนละส่วน หากไม่สามารถแบ่งได้ให้ประมูลระหว่างกันเอง หากตกลงกันไม่ได้ ให้เอาออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกันตามส่วน
จำเลยให้การว่า นางแดงได้ขายที่พิพาทให้จำเลยตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๖ จำเลยได้เข้าครอบครองทำกินตลอดมา จำเลยแจ้งการครอบครองในนามตนเองเป็นเจ้าของและขอหนังสือรับรองการทำประโยชน์แล้ว จำเลยยอมทำบันทึกการแบ่งมรดกท้ายฟ้องเพราะโจทก์ไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่าจำเลยฉ้อโกงมรดก จำเลยถูกจับไปควบคุมไว้ โจทก์ขอแบ่งที่ดินพิพาทโดยจะซื้อในราคา ๕,๕๐๐ บาท ทั้งอ้างว่ามีพินัยกรรม จำเลยจึงรับจะแบ่งที่ดินพิพาทให้ แต่โจทก์ผิดนัดไม่นำเงินมาชำระและไม่นำพินัยกรรมมาแสดง พินัยกรรมที่โจทก์อ้างเป็นพินัยกรรมปลอม นางแดงไม่มีอำนาจเอาที่ดินของจำเลยไปยกให้ผู้อื่น
ในวันนัดสืบพยาน เมื่อสืบตัวโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายนำสืบก่อนได้ ๑ ปากแล้ว โจทก์จำเลยท้ากันว่า ถ้าพินัยกรรมที่นางแดงทำไว้มีข้อความว่านางแดงได้ขายที่ดินแปลงพิพาทให้แก่นายปาว บุตรจันทร์ จำเลยหมดทั้งแปลง โจทก์ยอมแพ้คดีแก่จำเลยแต่ถ้าไม่มีข้อความดังกล่าวในพินัยกรรม จำเลยยอมแพ้คดีแก่โจทก์ และคู่ความแถลงว่าพินัยกรรมอยู่ที่จำเลย โดยจำเลยรับว่าจะนำส่งศาลในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๗ เวลา ๙.๐๐ นาฬิกา ถ้าไม่อาจนำส่งศาลในวันเวลาดังกล่าวไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ จำเลยก็เป็นอันยอมแพ้คดีแก่โจทก์เช่นกัน โดยให้ถือเอาได้เลยว่าไม่มีข้อความดังที่ท้ากันไว้ในพินัยกรรม ครั้นถึงวันนัด จำเลยส่งเอกสารหมาย จ.ล.๑ ต่อศาล โจทก์ตรวจดูแล้วแถลงว่าเอกสารดังกล่าวไม่ใช่พินัยกรรมที่คู่ความตกลงท้ากัน
ศาลชั้นต้นเห็นว่า เอกสารหมาย จ.ล.๑ ไม่ใช่พินัยกรรม และไม่มีข้อความตามที่คู่ความตกลงท้ากันเลย เท่ากับว่าจำเลยไม่อาจนำพินัยกรรมส่งศาลได้ในวันเวลานัด ถือได้ว่าไม่มีข้อความที่ท้ากันในพินัยกรรม จำเลยจึงต้องแพ้คดี พิพากษาให้จำเลยแบ่งที่ดินพิพาทให้โจทก์หนึ่งในสามส่วน หากไม่สามารถแบ่งได้ให้ประมูลราคาระหว่างกันเอง และหากยังตกลงกันไม่ได้ ให้ขายทอดตลาดเอาเงินให้โจทก์ตามส่วน ที่โจทก์ขอให้แบ่งที่พิพาทให้นายเพิ่มส่วนหนึ่งด้วยนั้น ไม่ใช่เรื่องที่โจทก์จะฟ้องแทนได้ ให้ยกคำขอส่วนนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า เอกสารหมาย จ.ล.๑ เป็นเอกสารที่โจทก์จำเลยประสงค์จะอ้างตามคำท้า แต่ไม่มีข้อความตามคำท้าของจำเลยในเอกสารดังกล่าว จึงพิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาว่าเอกสารหมาย จ.ล.๑ เป็นเอกสารที่โจทก์จำเลยประสงค์จะอ้างตามคำท้า และมีข้อความตามคำท้าหรือไม่นั้น ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๑๗ โจทก์แถลงว่า เอกสารหมาย จ.ล.๑ ไม่ใช่พินัยกรรมตามที่คู่ความตกลงท้ากัน พินัยกรรมตามที่ตกลงท้ากันมีอีกต่างหาก แต่จำเลยแถลงยืนยันว่าเอกสารหมาย จ.ล.๑ เป็นเอกสารตามที่คู่ความตกลงท้ากัน เมื่อข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารหมาย จ.ล.๑ ยังเป็นที่โต้แย้งกันอยู่ว่าจะใช่เอกสารตามที่โจทก์จำเลยตกลงท้ากันหรือไม่ เช่นนี้ จึงเป็นความจำเป็นที่ศาลจะต้องชี้ขาดในข้อนี้เสียก่อนว่าความจริงเป็นดังโจทก์แถลงหรือดังจำเลยแถลง เมื่อได้ข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ศาลจึงจะชี้ขาดคดีไปตามคำท้าได้ แต่ศาลชั้นต้นยังมิได้ดำเนินการพิจารณาไต่สวนให้ได้ข้อเท็จจริงที่กล่าว ก็ด่วนชี้ขาดคดีไปตามคำท้า จึงไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาความ ที่ศาลล่างทั้งสองชี้ขาดคดีมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนให้ได้ความจริงว่า เอกสารหมาย จ.ล.๑ เป็นเอกสารที่คู่ความตกลงท้ากันหรือไม่ เมื่อไต่สวนได้ความประการใดแล้ว ก็ให้พิพากษาไปตามรูปคดีที่คู่ความท้ากันต่อไป

Share