คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1026/2511

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นนายสนามชนโคได้รับมอบเงินที่ผู้เสียหายวางเดิมพันกันไว้เพื่อมอบให้แก่ฝ่ายชนะ. เมื่อโคชนะแล้วผู้เสียหายไปขอรับเงินจากจำเลย. แต่จำเลยไม่จ่ายให้โดยอ้างว่าไม่มีเงิน. และจะทำสัญญาให้แล้วก็ไม่ทำ. เช่นนี้ถือว่าเป็นการผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น. หาเป็นความผิดทางอาญาไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของนายชมนายเขียน นายสง นายวินัย นายเนื่อง และนายประกอบ โดยนายชมกับนายเขียนได้นำโคฝ่ายละหนึ่งตัวมาชนพนันกันในบ่อนของจำเลย โดยมอบเงินเดิมพันของบุคคลดังกล่าวให้จำเลยเป็นผู้เก็บรักษาไว้โดยตกลงกันว่าหากโคของฝ่ายใดชนะให้จำเลยมอบเงินเดิมพันให้แก่ฝ่ายที่ชนะไปผลปรากฏว่าโคของนายชม นายสง และนายเนื่องชนะ คนทั้งสามได้ขอรับเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยในวันนั้นเอง จำเลยกลับไม่ยอมมอบเงินให้โดยจำเลยเบียดบังยักยอกเอาเงินดังกล่าวไปเป็นประโยชน์ตนเสีย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352, 353 จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นเห็นว่านายสงไม่ใช่ผู้เสียหาย จึงไม่วินิจฉัยในกรณีของนายสงและฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่จ่ายเงินให้นายชม และนายเนื่องจึงมีความผิด พิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353ให้จำคุก 6 เดือน จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเป็นเพียงคนกลางรับฝากทรัพย์ไว้จ่ายให้เจ้าของโคผู้ชนะเท่านั้น หาใช่เป็นผู้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินอันจำเลยมีหน้าที่ต้องจัดการไม่ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาว่ารูปคดีเป็นคดีแพ่ง ไม่มีมูลทางอาญา ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายเท่านั้นศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่ข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมีเพียงว่า จำเลยเป็นนายสนามชนโคได้รับมอบเงินที่ผู้เสียหายวางเดิมพันกันไว้เพื่อมอบให้แก่ฝ่ายชนะเมื่อโคชนะแล้วผู้เสียหายไปขอรับเงินจากจำเลย แต่จำเลยไม่จ่ายให้โดยอ้างว่าไม่มีเงิน และจะทำสัญญาให้แล้วก็ไม่ทำ เช่นนี้ ถือว่าเป็นการผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น หาเป็นความผิดทางอาญาไม่ พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ยกฟ้องโจทก์.

Share