คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2541

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ตามสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยไม่มีข้อสัญญาใดระบุหน้าที่จำเลยว่าเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ ให้โจทก์ การที่สำนักงานขายจำเลยมีโฆษณาของสถาบันการเงินต่าง ๆชักชวนให้ลูกค้าจำเลยไปกู้ยืมเงินถือเป็นเรื่องของสถาบันการเงินที่จะโฆษณาหาลูกค้า หามีผลผูกพันให้จำเลยต้องจัดหาสถาบันการเงินให้แก่โจทก์ไม่ แม้พนักงานของจำเลยจะเรียกหลักฐาน จากโจทก์เพื่อติดต่อสถาบันการเงินให้โจทก์ ก็เป็นเรื่องให้ความสะดวกแก่โจทก์เพื่อประโยชน์แก่การขายอาคารชุดของจำเลยมากกว่าที่จำเลยจะผูกพันในรูปสัญญาจะจัดหางานแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ส่วนเอกสารที่สถาบันการเงินมีถึงจำเลยแสดงความยินดีสนับสนุนลูกค้าที่ซื้ออาคารชุดจำเลย ก็ไม่ใช่เอกสารที่ผูกพันอันจะฟังได้ว่าจำเลยมีสัญญาจัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ทำสัญญาจะซื้อกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการ”บ้านสุโขทัย” จากจำเลยในราคา 1,180,000 บาท ในการทำสัญญาโจทก์ได้ชำระเงินมัดจำให้จำเลย 20,000 บาท และตกลงว่าในระหว่างการก่อสร้าง โจทก์จะชำระเงินให้จำเลยเป็นเงิน232,800 บาท โดยผ่อนชำระเป็นรายเดือน เดือนละ 19,400 บาทส่วนที่เหลือโจทก์จะชำระให้จำเลยในวันนัดโอน สัญญาที่ทำกำหนดให้จำเลยหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์เพื่อชำระราคาส่วนที่เหลือทั้งจำเลยตกลงว่าโจทก์จะได้เข้าอยู่อาศัยภายในสิ้นปี 2537หากจำเลยผิดสัญญายินยอมให้โจทก์บอกเลิกและคืนเงินทั้งหมดที่รับไปพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ภายหลังจากทำสัญญา โจทก์ชำระราคาระหว่างก่อสร้าง จำนวน232,800 บาท ให้จำเลยครบถ้วน แต่จำเลยผิดสัญญาโดยไม่จัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์อีกทั้งไม่ดำเนินการก่อสร้างห้องชัดที่ซื้อให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่ระบุ โจทก์จึงได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังจำเลย แต่จำเลยไม่ยอมคืนเงินที่ได้รับรวมจำนวน 252,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันที่รับถึงวันฟ้องรวมเป็นเงิน 28,701.68 บาท แก่โจทก์ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 281,501.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีจากต้นเงินจำนวน 252,800 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า สัญญาซื้อขายไม่มีข้อตกลงว่า จำเลยจะเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ ทั้งจำเลยไม่ได้ตกลงกับโจทก์ว่าจะดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จและเข้าอยู่อาศัยได้ภายในสิ้นปี 2537 ภายหลังที่จำเลยก่อสร้างแล้วเสร็จจำเลยได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบและกำหนดวันโอนแต่โจทก์ผิดนัดไม่ไปจดทะเบียนโอนภายในกำหนด จำเลยจึงมีหนังสือบอกเลิกสัญญาไปยังโจทก์ โจทก์ไม่เคยโต้แย้งจำเลยว่าก่อสร้างห้องชุดที่พิพาทไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาตามฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาตามฎีกาโจทก์มีว่า โจทก์หรือจำเลยผิดสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดโครงการอาคารชุดพักอาศัย”บ้านสุโขทัย” ซึ่งปลูกสร้างบนที่ดินโฉนดเลขที่ 96084 ตำบลหัวหมากอำเภอบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ปัญหานี้โจทก์ฎีกาว่าจำเลยผิดสัญญาไม่จัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ ทั้งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เพราะนางวราภรณ์ กยาวัฒนกิจพยานจำเลยยังเบิกความรับว่า สำนักงานขายของจำเลยมีหนังสือโฆษณาของสถาบันการเงินชักชวนลูกค้าให้ไปกู้ยืมเงินเป็นการแสดงว่าจำเลยเป็นผู้แนะนำ และสัญญาว่าจะให้ลูกค้าใช้บริการของสถาบันการเงินเหล่านั้น ตามเอกสารหมาย จ.9 ถึง จ.13 เป็นเอกสารของสถาบันการเงินที่แจ้งให้จำเลยทราบว่ายินดีสนับสนุนลูกค้าที่มาซื้ออาคารชุดที่จำเลยก่อสร้างนอกจากนั้น พนักงานของจำเลยยังเรียกหลักฐานต่าง ๆ ของโจทก์ไปเพื่อติดต่อหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ แสดงว่าจำเลยสัญญาจะหาแหล่งเงินกู้ให้ลูกค้านั้น เห็นว่าตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยตามคำฟ้อง ไม่มีข้อสัญญาข้อใดระบุหน้าที่จำเลยว่าเป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ การที่สำนักงานขายจำเลย มีโฆษณาของสถาบันการเงินต่าง ๆ ชักชวนให้ลูกค้าจำเลยไปกู้ยืมเงินก็เป็นเรื่องของสถาบันการเงินโฆษณาหาลูกค้าของสถาบันการเงินนั้น ๆหามีผลผูกพันให้จำเลยต้องจัดหาสถาบันการเงินให้แก่โจทก์แม้พนักงานของจำเลยจะเรียกหลักฐานจากโจทก์เพื่อติดต่อสถาบันการเงินให้โจทก์ ก็เป็นเรื่องให้ความสะดวกแก่โจทก์เพื่อประโยชน์แก่การขายอาคารชุดของจำเลยมากกว่าที่จำเลยจะผูกพันในรูปสัญญาจะจัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ดังที่โจทก์ฎีกาส่วนเอกสารหมาย จ.9 ถึง 13 ซึ่งเป็นเอกสารที่สถาบันการเงินมีถึงจำเลยแสดงความยินดีสนับสนุนลูกค้าที่ซื้ออาคารชุดจำเลยก็ไม่ใช่เอกสารที่ผูกพันที่จะฟังได้ว่าจำเลยมีสัญญาจัดหาแหล่งเงินกู้ให้โจทก์ดังโจทก์ฎีกา ฎีกาโจทก์ปัญหานี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนปัญหาตามฎีกาโจทก์ที่ว่า จำเลยผิดสัญญาไม่สร้างอาคารชุดให้เสร็จตามสัญญานั้น เห็นว่า ตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขายอาคารชุดไม่มีกำหนดระยะเวลาไว้ว่าจะเสร็จวันเวลาใด ตามเอกสารหมาย จ.17 ที่โจทก์โทรสารถึงจำเลย โจทก์โต้แย้งแต่เรื่องที่สถาบันการเงินให้กู้เงินไม่พอเพียงจะรับโอนอาคารชุดจากจำเลย หาได้โต้แย้งว่าอาคารชุดที่โจทก์ซื้อจำเลยยังสร้างไม่เสร็จไม่พร้อมโอนให้โจทก์แต่อย่างใด ภาพถ่ายอาคารชุดที่โจทก์นำสืบว่า จำเลยยังสร้างอาคารชุดไม่เสร็จ แต่จะเป็นภาพถ่ายอาคารชุดห้องที่โจทก์ตกลงซื้อหรือไม่ เป็นภาพถ่ายก่อนหรือหลังจำเลยแจ้งให้โจทก์รับโอนอาคารชุด โจทก์ก็ไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุนให้รับฟังได้ว่าเป็นภาพถ่ายอาคารชุดที่โจทก์ตกลงซื้อจากจำเลยและโจทก์ถ่ายไว้หลังจากจำเลยแจ้งให้โจทก์ไปรับโอน นอกจากคำเบิกความของโจทก์เพียงปากเดียว พยานหลักฐานของโจทก์กล่าวอ้างลอย ๆไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง ฎีกาโจทก์ปัญหานี้ฟังไม่ขึ้นอีกเช่นกัน”
พิพากษายืน

Share