คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 519/2505

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การอุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งชี้ขาดเกี่ยวกับการประเมินภาษีอากรที่อำเภอไม่มีหน้าที่ประเมินนั้น ให้อุทธรณ์ต่อศาลภายใน กำหนด 15 วัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ เพราะกฎหมายบัญญัติไว้เป็นพิเศษเช่นนั้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดวินิจฉัยชึ้ขาดศาลอุทธรณ์ของโจทก์และแจ้งให้โจทก์ทราบแล้ว แต่โจทก์ก็พยายามนำหลักฐานต่าง ๆ ไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากรว่าได้ชำระภาษีนั้นแล้ว เจ้าพนักงานสรรพากรบันทึกว่าหลักฐานที่โจทก์นำมาแสดงฟังไม่ได้ โจทก์จะนับอายุอุทธรณ์แต่วันทราบคำสั่งเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ได้ เพราะบันทึกของเจ้าพนักงานสรรพากรไม่ใช่คำวินิจฉัยชี้ขาดอุทธรณ์ของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะวินิจฉัยอุทธรณ์แทนผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนคำสั่งชี้ขาดอุทธรณ์ที่ ๘๒๐/๒๕๐๒ ฉบับลงวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๐๒ ของจำเลยเสียและพิพากษาว่าโจทก์ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้และภาษีเพิ่มเติมตามคำชี้ขาดนั้น เพราะโจทก์ชำระแล้วตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕
จำเลยให้การว่าโจทก์ยังไม่ได้ชำระภาษีตามที่จำเลยชี้ขาดอย่างไรก็ดีคดีโจทก์ขาดอายุความและจำเลยร้องขอให้ศาลชี้ขาดเบื้องต้นตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๔
ศาลชั้นต้นเห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาว่า โจทก์มิได้อุทธรณ์คำวินิจฉัยชี้ขาดของจำเลยที่ ๒ ต่อศาลภายใน ๑๕วัน จึงไม่มีอำนาจฟ้องพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ได้ความว่า โจทก์ขายแร่ไป ๑๕๐ หาบ เจ้าพนักงานประเมินให้โจทก์เสียภาษีเงินได้ โจทก์อุทธรณ์ต่อจำเลยที่ ๒ ๆ ชี้ขาดให้ยกอุทธรณ์ซึ่งโจทก์ทราบคำสั่งเมื่อวันที่ ๑๑มกราคม ๒๕๐๒ แต่มิได้นำเงินภาษีชำระโดยผู้แทนของโจทก์ได้นำหลักฐานมาชี้แจงต่อนายถนัด ผู้ช่วยสรรพากรได้ชำระภาษีแล้ว นายถนัดบันทึกความเห็นว่า การกระทำเช่นนี้ ไม่มีระเบียบให้ทำ และพยานหลักฐานก็ฟังไม่ได้ ผู้แทนโจทก์ทราบบันทึกฉบับนี้เมื่อ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๐๒ แล้ว โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๐๒ คดีโจทก์จึงขาดอายุความอุทธรณ์ตามความในมาตรา ๓๓ ให้อุทธรณ์คำวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดี หรือผู้ว่าราชการจังหวัดต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวัน นับแต่วันได้รับแจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ แล้ว เพราะบันทึกของนายถนัดหาใช่คำวินิจฉัยชี้ขาด อุทธรณ์ของจำเลยที่ ๒ ไม่แม้นายถนัด จะเป็นเจ้าพนักงานสรรพากรและอยู่ใต้บังคับบัญชาของจำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดก็ตาม แต่นายถนัดก็ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะวินิจฉัยอุทธรณ์ภาษีเงินได้แทนจำเลยที่ ๒ ได้และบันทึกของนายถนัดก็มิใช่บันทึกของจำเลยที่ ๒ ไม่จำต้องวินิจฉัยปัญหาข้ออื่นต่อไป
พิพากษายืน

Share