คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5154/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีเดิมซึ่งผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ศาลได้ออกหมายอายัดเงินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาไปยัง อ. และเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลได้อายัดเงินของจำเลยไว้นั้น เป็นการอายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวในขณะที่จำเลยยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาถือไม่ได้ว่าเป็นการอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษา โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้จึงมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีกรมบังคับคดีอายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา (จำเลย) จาก อ.เพื่อบังคับคดีได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 วรรคแรก.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระหนี้แก่โจทก์เป็นเงิน ๗๖๖,๑๘๑.๕๐ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียม ต่อมาจำเลยทั้งสองไม่ยอมชำระหนี้ตามคำพิพากษาดังกล่าวโจทก์ขอให้บังคับคดี
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ของจำเลยที่ ๑ ตามคำพิพากษาผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอศาลจังหวัดนครสวรรค์ใช้วิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา และศาลได้มีคำสั่งอายัดชั่วคราวเงินซึ่งจำเลยที่ ๑ มีสิทธิเรียกร้องจากกองทัพอากาศ ศาลได้แจ้งการอายัดเงินดังกล่าวชั่วคราวไปยังกองทัพอากาศแล้ว ต่อมาจำเลยที่ ๑ไม่ชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องจึงขอให้บังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้อายัดเงินไปยังกองทัพอากาศ และขอให้ส่งเงินไปยังศาลจังหวัดนครสวรรค์ แต่ปรากฏว่ากองทัพอากาศได้ส่งเงินจำนวนดังกล่าวไปให้กรมบังคับคดี ตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีในคดีนี้ได้แจ้งการอายัดแล้ว การอายัดของเจ้าพนักงานบังคับคดีดังกล่าวเป็นการอายัดซ้ำ ขอให้เพิกถอนการอายัด
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยโดยฟังข้อเท็จจริงว่า คดีหมายเลขแดงที่๑๑๑๓/๒๕๒๘ ของศาลจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองนั้น ศาลได้ออกหมายอายัดชั่วคราวไปยังกองทัพอากาศกองทัพอากาศทราบหมายอายัดชั่วคราวแล้วเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม๒๕๒๘ แต่กองทัพอากาศยังมิได้ส่งเงินไปยังศาลจังหวัดนครสวรรค์ต่อมาวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๒๘ กองยึดอายัดและจำหน่ายทรัพย์สินกรงบังคับคดี ได้มีหนังสือแจ้งอายัดไปยังกองทัพอากาศให้จัดส่งเงินตามหมายอายัดคดีนี้ไปยังกรมบังคับคดี กองทัพอากาศจึงส่งเงินไปยังกรมบังคับคดีเมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๒๘ ต่อมาวันที่ ๑พฤศจิกายน ๒๕๒๘ ผู้ร้องกับจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกัน ศาลได้พิพากษาตามยอม จำเลยทั้งสองไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาตามยอมผู้ร้องจึงขอบังคับคดี ศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้ออกหมายบังคับคดีเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๒๘ ข้อที่ผู้ร้องฎีกาว่า หมายอายัดชั่วคราวมีผลใช้บังคับอยู่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้ไม่มีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดี กองยึดอายัดและจำหน่ายทรัพย์สิน กรมบังคับคดี อายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจากกองทัพอากาศได้ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๙๐ วรรคแรก นั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ วรรคแรก บัญญัติว่า”เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินอย่างใดของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้ตามคำกองทัพอากาศอื่นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นซ้ำอีก…”แต่สำหรับคดีของผู้ร้องนี้ปรากฏว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีศาลจังหวัดนครสวรรค์ได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวในขณะที่จำเลยยังมิได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อบังคับคดีตามพิพากษา ดังนั้นโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้จึงมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดี กองยึดอายัดและจำหน่ายทรัพย์สิน กรมบังคับคดี อายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาจากกองทัพอากาศเพื่อบังคับคดีได้ การอายัดเงินดังกล่าวไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๐ วรรคแรกแต่อย่างใด
พิพากษายืน.

Share