คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5152/2548

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

สถานที่จอดรถของวิทยาลัยเทคนิคเป็นเพียงสถานที่ซึ่งทางราชการจัดไว้สำหรับเป็นที่จอดรถของนักศึกษา ผู้มาติดต่อราชการ ตลอดจนข้าราชการในวิทยาลัยเท่านั้น หาใช่เป็นสถานที่ซึ่งใช้สำหรับปฏิบัติราชการของข้าราชการในวิทยาลัยโดยตรงไม่ การที่จำเลยลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปจากบริเวณสถานที่จอดรถดังกล่าว จึงไม่ใช่การลักทรัพย์ในสถานที่ราชการอันเป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 335 (8) วรรคแรก จำเลยจึงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 334 เท่านั้น ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วย 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) วรรคแรก ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 คงจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษจำคุกนั้น เห็นว่า แม้พฤติการณ์ในการลักทรัพย์ของจำเลยนับว่าร้ายแรง แต่ภายหลังเกิดเหตุผู้เสียหายก็ได้รับทรัพย์ของตนคืนแล้ว ทั้งขณะกระทำความผิดจำเลยยังเป็นเยาวชนมีอายุเพียง 17 ปี และเป็นนักศึกษาระดับประโยควิชาชีพชั้นต้น แผนกช่างก่อสร้าง ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยเทคนิคชัยนาท จังหวัดชัยนาท โดยจำเลยกระทำความผิดตามลำพังเพียงผู้เดียวไม่มีผู้อื่นร่วมกระทำความผิดเป็นขบวนการด้วย จึงเชื่อว่าจำเลยกระทำไปเพราะความเยาว์วัย อ่อนด้อยต่อประสบการณ์ ขาดการตรึกตรองที่ดีจึงหลงกระทำความผิดได้โดยง่าย เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยสักครั้งโดยรอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ เพื่อจำเลยจะได้กลับตนเป็นพลเมืองดีและสามารถศึกษาเล่าเรียนตลอดจนประกอบวิชาชีพสุจริตเลี้ยงตนเองได้ต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ใช้ดุลพินิจไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วยฎีกาของจำเลยฟังขึ้น
อนึ่ง คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ จำเลยลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ซึ่งจอดไว้ที่สถานที่จอดรถของวิทยาลัยเทคนิคชัยนาท อันเป็นสถานที่ราชการไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง ซึ่งศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) วรรคแรก แต่สถานที่จอดรถของวิทยาลัยเทคนิคชัยนาทดังกล่าวเป็นเพียงสถานที่ซึ่งทางราชการจัดไว้สำหรับเป็นที่จอดรถของบรรดานักศึกษา ผู้มาติดต่อราชการตลอดจนข้าราชการของวิทยาลัยเท่านั้น หาใช่เป็นสถานที่ซึ่งใช้สำหรับปฏิบัติราชการของข้าราชการในวิทยาลัยโดยตรงแต่อย่างใดไม่ การที่จำเลยลักรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไปจากบริเวณสถานที่จอดรถดังกล่าว จึงไม่ใช่การลักทรัพย์ในสถานที่ราชการอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (8) วรรคแรก ดังที่โจทก์ฟ้อง จำเลยจึงคงมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 เท่านั้น ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้คู่ความมิได้ยกขึ้นฎีกา แต่ศาลฎีกาก็มีอำนาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และเห็นสมควรกำหนดโทษจำคุกจำเลยเสียใหม่ให้เหมาะสม ทั้งเมื่อรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยแล้วเพื่อเป็นการป้องปรามและสอดส่องดูและมิให้จำเลยหวนกลับไปกระทำความผิดซ้ำอีกเห็นสมควรลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งและคุมความประพฤติจำเลยไว้ด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 ขณะกระทำความผิดจำเลยอายุ 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 ลงโทษจำคุก 1 ปี และปรับ 3,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน และปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 3 ปี และคุมความประพฤติจำเลย 2 ปี นับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาฉบับนี้ให้จำเลยฟัง โดยกำหนดเงื่อนไขให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ให้จำเลยละเว้นการประพฤติใดอันอาจนำสู่การกระทำผิดทำนองนี้อีก กับให้จำเลยกระทำกิจกรรมบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ตามที่พนักงานคุมประพฤติและจำเลยเห็นสมควรมีกำหนด 20 ชั่วโมงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

Share