คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5131/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยนำเงินไปวางที่สำนักงานบังคับคดี และที่ศาลชั้นต้นเพื่อใช้ราคาทรัพย์คืนแก่ผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายไม่ได้ตกลงยินยอมด้วย ย่อมเป็นแต่เพียงการบรรเทาผลร้ายแห่งคดี ไม่มีผลเป็นการยอมความตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงยังไม่ระงับไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์จำนวน 52,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก จำคุก 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ จำนวน 52,500 บาท แก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า จำเลยได้นำเงินไปวางที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ดและที่ศาลชั้นต้นเพื่อใช้ราคาทรัพย์จำนวน 52,500 บาท แก้ผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว มูลเหตุในการฟ้องร้องดำเนินคดีสิ้นสุดลง สิทธิในการคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปนั้น เห็นว่า การที่จำเลยวางเงินจำนวนดังกล่าวเพื่อใช้ราคาทรัพย์คืนแก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่ได้ตกลงยินยอมด้วย ดังนั้น ย่อมเป็นแต่เพียงการบรรเทาผลร้ายแห่งคดี ไม่เป็นการยอมความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงยังไม่ระงับไป ส่วนที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษจำคุกนั้น ได้ความตามรายงานการสืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติว่าจำเลยเคยมีพฤติการณ์เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ตามร้านค้าต่างๆ มาแล้วหลายครั้งและในแต่ละครั้งจำเลยก็จะนำรถจักรยานยนต์ไปจำนำแก่บุคคลอื่นบ้าง นำไปซ่อนบ้างและไม่ยอมชำระค่าเช่าซื้อแก่เจ้าของรถจักรยานยนต์แต่อย่างใด เมื่อเจ้าของรถจักรยานยนต์ติดตามเร่งรัดจะดำเนินคดี จำเลยก็จะนำเงินไปชำระบ้างนำรถจักรยานยนต์มาคืนบ้าง พฤติการณ์แห่งคดีเช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า เป็นการกระทำที่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า จึงเป็นเรื่องร้ายแรง โทษศาลอุทธรณ์ภาค 4 กำหนดมาเหมาะสมแก่คดีแล้ว ไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงแก้ไข และไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกให้จำเลยที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ไม่รอการลงโทษจำคุกให้จำเลย ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share