คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าเสียหายที่โจทก์ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ไม่ได้ราคาเท่ากับราคาค่าเช่าซื้อ ไม่ใช่เงินที่ผู้เช่าซื้อค้างชำระตาม ความหมายของ”ค้างเงินใด ๆ แก่เจ้าของ” ตาม สัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์จำเลยข้อที่ 9 ที่ว่า “ถ้า ผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระหนี้หรือค้างเงินใด ๆแก่เจ้าของ ผู้เช่าซื้อยอมเสียดอกเบี้ย สำหรับเงินที่ค้างนับแต่วันผิดนัดในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี…” ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ใช้ ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีคงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ใช้ ดอกเบี้ย ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 เท่านั้น สัญญาเช่าซื้อข้อ 10 ที่ว่า “…แต่ ถ้า เจ้าของได้ ขายทรัพย์สินที่เช่าซื้อ ไปแล้ว ยังไม่คุ้ม ราคาค่าเช่าซื้อที่ต้อง ชำระทั้งหมดตาม สัญญานี้กับค่าเสียหายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้น ผู้เช่าซื้อจะชดใช้ให้เจ้าของจนครบ” นั้น เป็นวิธีการกำหนดค่าเสียหายวิธีหนึ่งมีลักษณะเป็นการกำหนดเบี้ยปรับ เมื่อโจทก์ขอมาสูงเกินไปศาลก็ชอบที่จะลดเบี้ยปรับลงได้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383.

Share