คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ ส. ลูกจ้างโจทก์ไปยืมมอเตอร์ สูบน้ำ เพื่อสูบน้ำขึ้นมาทำความสะอาดที่พัก และขณะเดียวกันพระภิกษุได้ขอให้ ส. สูบน้ำไปไว้บนกุฎิพระด้วย ส. ได้ถูกไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตายขณะที่อยู่ระหว่างระหว่างกำลังใช้มอเตอร์ สูบน้ำขึ้นจากสระน้ำ นั้น พึงเห็นได้ว่า ส.จะต้องทำความสะอาดที่พักตามคำสั่งของผู้ควบคุมงานของโจทก์ ส.จำเป็นต้องใช้น้ำเอามาทำความสะอาดที่พักดังกล่าว การที่จะนำเอาน้ำในสระขึ้นมาใช้เป็นหน้าที่ของ ส.ฉะนั้นส. จะใช้วิธีการอย่างใดเป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของ ส. เพื่อให้ได้น้ำขึ้นมาใช้ เมื่อส. เลือกวิธีไปยืมมอเตอร์ สูบน้ำจากพระภิกษุมาใช้สูบ น้ำ เพื่อทำความสะอาดที่พัก ถือได้ว่าเป็นการกระทำตามคำสั่งของ ผู้ควบคุมงานของโจทก์และถือว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ให้กับโจทก์.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์มอบอำนาจให้นายวิทูรวิทูรธรรม ดำเนินคดีแทน จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำเลยที่ 2 เป็นเลขาธิการของจำเลยที่ 1 มีอำนาจหน้าที่วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งเงินทดแทนตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 11 มกราคม2533 นายสังคม ไพรวรรณ์ ลูกจ้างรายวันของโจทก์ ได้ออกปฏิบัติงานก่อสร้างงานขยายเขตระบบจำหน่ายไฟฟ้าที่หน่วยบริการผู้ใช้ไฟวังตะกูตำบลสำนักขุนเณร อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร โดยได้นำสัมภาระและอุปกรณ์การก่อสร้างไปอาศัยพักแรมชั่วคราวที่ศาลาการเปรียญวัดวังบงค์ ต่อมาวันที่ 17 มกราคม 2533 นายสังคม ไพรวรรณ์ ได้ขอยืมมอเตอร์สูบน้ำของวัดวังบงค์นำไปสูบน้ำจากสระน้ำเพื่อทำความสะอาดที่พัก แต่นายสังคม ไพรวรรณ์ กลับนำมอเตอร์สูบน้ำไปสูบน้ำขึ้นไปบนกุฏิพระซึ่งอยู่คนละส่วนกับศาลาการเปรียญที่พัก อันเป็นการทำงานนอกเหนือจากงานในหน้าที่ และปรากฏว่านายสังคมไพรวรรณ์ ประสบอันตรายถูกไฟฟ้าดูดจนถึงแก่ความตาย ต่อมาเมื่อวันที่13 มีนาคม 2533 นางผิน ไพรวรรณ์ มารดาของนายสังคม ไพรวรรณ์ ได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานเงินทดแทน สำนักงานแรงงานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอให้โจทก์จ่ายเงินทดแทน พนักงานเงินทดแทนวินิจฉัยว่า นายสังคมไพรวรรณ์ ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ จึงมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายเงินทดแทนให้แก่นางผิน ไพรวรรณ์ โจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จึงอุทธรณ์คำสั่งต่ออธิบดีกรมแรงงาน จำเลยที่ 2ได้พิจารณาอุทธรณ์ของโจทก์แล้วมีคำสั่งว่า นายสังคม ไพรวรรณ์ ประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้าง คำสั่งของพนักงานเงินทดแทนที่สั่งให้โจทก์จ่ายเงินทดแทนชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น โจทก์เห็นว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2 ยังคลาดเคลื่อนต่อข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเนื่องจากการที่นายสังคม ไพรวรรณ์ ขอยืมมอเตอร์สูบน้ำจากวัดวังบงค์มาสูบน้ำนั้น มิใช่เป็นการกระทำตามคำสั่งของผู้ควบคุมงานของโจทก์แต่เป็นการกระทำของนายสังคม ไพรวรรณ์ เองเพื่อที่จะสูบน้ำขึ้นไปที่กุฏิพระซึ่งอยู่ห่างจากสระน้ำประมาณ110 เมตร เมื่อนายสังคม ไพรวรรณ์ ถูกไฟฟ้าดูดจนถึงแก่ความตาย จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้าง โจทก์ไม่จำต้องจ่ายเงินทดแทนตามคำสั่งของพนักงานเงินทดแทน สำนักงานแรงงานจังหวัดพิจิตร ขอให้พิพากษาเพิกถอนคำสั่งของพนักงานเงินทดแทน สำนักงานแรงงานจังหวัดพิจิตร และคำสั่งของเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เรื่อง อุทธรณ์คำสั่งพนักงานเงินทดแทน
จำเลยทั้งสองให้การว่า เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2533 นายสังคมไพรวรรณ์ ได้รับคำสั่งจากนายสมศักดิ์ กลิ่นใย นายช่างผู้ควบคุมงานซึ่งเป็นหัวหน้างาน ให้อยู่บริเวณที่พักเพื่อดูแลอุปกรณ์ต่าง ๆที่เก็บอยู่ในที่พักและดูแลทำความสะอาดที่พัก ส่วนคนงานคนอื่น ๆออกไปทำงานนอกสถานที่ ในวันดังกล่าวนายสังคม ไพรวรรณ์ ได้ไปขอยืมเครื่องสูบน้ำจากวัดวังบงค์เพื่อสูบน้ำจากสระน้ำขึ้นมาทำความสะอาดที่พักซึ่งเป็นการทำงานให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้าง แต่ปรากฏว่าเครื่องสูบน้ำชำรุด ทำให้นายสังคม ไพรวรรณ์ ถูกไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตาย เหตุที่นายสังคม ไพรวรรณ์ ถึงแก่ความตายเป็นการทำงานตามคำสั่งของนายจ้างและเนื่องจากการทำงานให้แก่นายจ้าง โจทก์มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินทดแทนให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนของนายสังคมไพรวรรณ์ คำสั่งของพนักงานเงินทดแทนสำนักงานแรงงานจังหวัดพิจิตรที่สั่งให้โจทก์จ่ายเงินทดแทนและคำสั่งของจำเลยที่ 2 ที่วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่ง เรื่อง เงินทดแทนของโจทก์ชอบด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะเพิกถอน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ขณะที่นายสังคม ไพรวรรณ์ถูกไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตาย อยู่ระหว่างที่กำลังใช้มอเตอร์สูบน้ำขึ้นจากสระน้ำเพื่อจะทำความสะอาดที่พักแรม เป็นการถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานให้แก่โจทก์ โจทก์จึงต้องจ่ายเงินทดแทนให้แก่ผู้มีสิทธิได้รับเงินค่าทดแทน คำวินิจฉัยของพนักงานเงินทดแทนสำนักงานแรงงานจังหวัดพิจิตร และคำวินิจฉัยของจำเลยที่ 2 ชอบแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “ที่โจทก์อุทธรณ์ข้อ 2.2ว่า การที่นายสังคม ไพรวรรณ์ ไปยืมมอเตอร์สูบน้ำเพื่อสูบน้ำขึ้นมาทำความสะอาดที่พัก และขณะเดียวกันพระภิกษุได้ขอให้นายสังคมสูบน้ำไปไว้บนกุฏิพระด้วย นายสังคมได้ถูกไฟฟ้าดูดถึงแก่ความตาย ขณะที่อยู่ระหว่างกำลังใช้มอเตอร์สูบน้ำขึ้นจากสระน้ำ โจทก์ถือว่าการกระทำของนายสังคมมิใช่เป็นการทำตามคำสั่งของนายสมศักดิ์ กลิ่นใยผู้ควบคุมงานของโจทก์และจะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ให้กับโจทก์หาได้ไม่นั้น เห็นว่า นายสังคมจะต้องทำความสะอาดที่พักตามคำสั่งของนายสมศักดิ์ ผู้ควบคุมงานของโจทก์ นายสังคมจำเป็นต้องใช้น้ำเอามาทำความสะอาดที่พักดังกล่าว การที่จะนำเอาน้ำในสระขึ้นมาใช้เป็นหน้าที่ของนายสังคม ฉะนั้นนายสังคมจะใช้วิธีการอย่างใดเป็นเรื่องอยู่ในดุลพินิจของนายสังคมเพื่อให้ได้น้ำมาใช้ เมื่อนายสังคมเลือกวิธีโดยไปยืมมอเตอร์สูบน้ำจากพระภิกษุมาใช้สูบน้ำเพื่อทำความสะอาดที่พัก ถือได้ว่าเป็นการกระทำตามคำสั่งของนายสมศักดิ์ผู้ควบคุมงานของโจทก์และถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ให้กับโจทก์ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share