คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 627/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิดฐานรับของโจรตามที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 357ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เมื่อโจทก์นำสืบได้ข้อเท็จจริงชัดเจนหรือพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ฟ้องของโจทก์ชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 158 ไม่เคลือบคลุม.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2531 เวลากลางคืนหลังเที่ยง ถึงวันที่ 14 เมษายน 2531 เวลากลางคืนก่อนเที่ยงวันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ได้มีคนร้ายเข้าไปในบ้านพักอันเป็นเคหสถานที่อยู่อาศัยของนายสมุทร ไทยน้อยผู้เสียหาย โดยไม่ได้รับอนุญาตและโดยไม่มีเหตุอันสมควร แล้วลักเอารถจักรยานสองล้อ 1 คัน ราคา1,400 บาท ของผู้เสียหายที่เก็บรักษาไว้ในบ้านดังกล่าวไปโดยทุจริต เหตุเกิดที่ตำบลท่านางแนว อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่นต่อมาวันที่ 15 เมษายน 2531 เวลากลางวัน เจ้าพนักงานตำรวจยึดรถจักรยานสองล้อของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไปจากความยึดถือครอบครองของจำเลย ทั้งนี้ โดยจำเลยเป็นคนร้ายลักเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยทุจริต หรือมิฉะนั้นจำเลยรับเอาทรัพย์ของผู้เสียหายที่ถูกลักไปไว้จากคนร้าย แล้วช่วยซ่อนเร้น (ที่ถูกซ่อนเร้น) ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ โดยจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ เหตุรับของโจรเกิดที่ตำบลท่านางแนว อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่นและตำบลยางหวาย อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ เกี่ยวพันกันขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335, 357 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 11และนับโทษต่อจากคดีอาญาดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 (ที่ถูกมาตรา 357 วรรคแรก) จำคุกจำเลย 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาตามฎีกาของจำเลยเพียงปัญหาเดียวว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมหรือไม่จำเลยกล่าวอ้างว่าฟ้องของโจทก์กล่าวหาระบุการกระทำของจำเลยทุกอย่างตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 คือกล่าวหาว่าจำเลยช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไป รับซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด จึงเป็นฟ้องที่เคลือบคลุมนั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 โจทก์จะต้องบรรยายฟ้องถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆอีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรที่จะทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี ซึ่งในคดีนี้ฟ้องของโจทก์ที่บรรยายไว้ได้กล่าวอ้างถึงการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ซึ่งการกระทำทุกอย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่งย่อมเป็นความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เมื่อโจทก์นำสืบได้ข้อเท็จจริงชัดเจนหรือพฤติการณ์แห่งคดีฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทุกอย่าง การกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามกฎหมายดังกล่าวแล้ว ฟ้องของโจทก์จึงถูกต้องครบถ้วนชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้วหาได้เคลือบคลุมดังจำเลยกล่าวอ้างไม่…”พิพากษายืน.

Share