แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า ผู้ร้องทั้งสองฎีกา มีทางที่ศาลฎีกาจะมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์อย่างแน่นอน โปรดอนุญาต ให้ทุเลาการบังคับไว้ก่อน
หมายเหตุ ทนายผู้คัดค้านทั้งสี่ แถลงคัดค้าน (อันดับ 132)
คดีทั้งสามสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยให้เรียกนางสีนวล จิตรีเนื่อง ว่าผู้ร้องที่ 1นายจำรัส ไตรดาราว่าผู้ร้องที่2และให้เรียกนายสำอางค์หรืออางสนธิกรณ์ว่าผู้คัดค้านที่1นายสวัสดิ์ไตรโชค ว่าผู้คัดค้านที่ 2 นายสีนวลไตรผลว่าผู้คัดค้านที่3นายทุมจิตรีหาญ ว่าผู้คัดค้านที่ 4 นางสาวการะเวก กุมภาพันธ์ ว่าผู้คัดค้านที่ 5 และนายโปร่ง สุมนต์ ว่าผู้คัดค้านที่ 6
ก่อนสืบพยานศาลได้สั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินไปรังวัดสอบเขต ที่ดินพิพาทโดยให้คู่ความทุกฝ่ายนำชี้ที่ดินส่วนที่อ้างว่า ครอบครองอยู่ปรากฏตามแผนที่พิพาทลงวันที่ 19 มกราคม 2532 ซึ่งคู่ความทุกฝ่ายรับรองว่าถูกต้องตามที่นำชี้จริง โดยในวันนัดพร้อมและรับรองแผนที่พิพาท ผู้คัดค้านที่ 2 และที่ 5 ยื่นคำร้องขอถอนคำคัดค้าน ศาลชั้นต้น อนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินโฉนดเลขที่ 2551 ตำบลบางไทรอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เฉพาะส่วนเนื้อที่ 3 ไร่55 ตารางวา ในเส้นสีเขียวตามแผนที่พิพาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษานี้ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนางสีนวล จิตรีเนื่องผู้ร้องที่ 1 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ผู้คัดค้านที่ 1 ที่ 3 ที่ 4และที่ 6 ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามส่วนที่ผู้คัดค้านครอบครองดังปรากฏตามแผนที่พิพาทที่เจ้าพนักงานที่ดินทำขึ้นเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2532 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ผู้ร้องทั้งสองฎีกา และทนายผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 125,124)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 7(พ.ศ. 2497)ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ที่ดินซึ่งได้มาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1352 ผู้ได้มาต้องคำขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอันถึงที่สุดแสดงว่าตนมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว ดังนั้นเมื่อคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุด จึงไม่จำเป็นที่ จะต้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างฎีกา ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ