คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 511/2493

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อำนาจด้วยกำลังกายข่มขืนกระทำชำเราโจทก์จนสำเร็จความใคร่ ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 243 ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยได้กอดโจทก์ แต่โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยได้กอดโจทก์อันเป็นความผิดตามมาตรา 246 ศาลต้องพิพากษายกฟ้องตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 192 วรรค 2

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยใช้อำนาจด้วยกำลังกายข่มขืนกระทำชำเราขืนใจโจทก์จนสำเร็จความใคร่ ๑ ครั้ง ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๓ จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่า จำเลยได้ข่มขืนกระทำชำเราโจทก์แต่เชื่อว่า จำเลยได้กอดโจทก์ซึ่งมิใช่ภรรยาจำเลยแต่เห็นว่าโจทก์มิได้บรรยายฟ้อง หรือกล่าวหาในคำฟ้องว่า จำเลยกอดโจทก์ จึงลงโทษจำเลยฐานนี้ไม่ได้ พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้จะลงโทษฐานกระทำอนาจารตาม ก.ม. ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๖ ได้หรือไม่ แต่โจทก์มิได้อ้าง ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๖ เป็นบทขอให้ลงโทษจำเลย โจทก์อ้างมาตรา ๒๔๓ โจทก์มิได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้กอดโจทก์อันจะเป็นผิดตามมาตรา ๒๔๖ การใช้กำลังข่มขืนกระทำชำเราดังคำบรรยายฟ้องคดีนี้ หาจำต้องมีการกิดด้วยเสมอไปไม่ ฉะนั้นตามข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยได้กอดโจทก์จึงเป็นข้อเท็จจริงที่นอกคำฟ้อง หรือต่างกับโจทก์กล่าวฟ้อง ซึ่งศาลต้องพิพากษายกฟ้อง ตามมาตรา ๑๙๒ วรรค ๒ พิพากษายืน

Share