แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บุกรุกเข้าไปในเคหะสถานเพื่อข่มขืนทำชำเรานั้น เป็นความผิดกะทงเดียว ทำยอมเลิกคดีเรื่องข่มขืนกระทำชำเรา ย่อมหมายความรวมตลอดถึงความผิดฐานบุกรุกซึ่งเป็นกรรมอันเดียวกันด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบุกรุกเคหะสถานแล้วพยายามข่มขืนกระทำชำเราโจทก์จำเลยแถลงว่า คดีนี้เป็นความผิดต่อส่วนตัวโจทก์ได้ทำสัญญายอมเลิกความแก่จำเลยจะมาฟ้องคดีไม่ได้ ศาลชั้นต้นเห็นว่าโจทก์ได้ยอมเลิกความกับจำเลยแล้วในความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราแต่ไม่+ความถึงเรื่องบุกรุกเคหะสถานจึงลงโทษจำเลยตามกฏหมายอาญามาตรา ๓๒๙ วรรค ๒
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าหนังสือสัญญาซึ่งโจทก์ยอมเลิกความเรื่องนี้กับจำเลยเป็นสัญญาที่ใช้ได้ตามกฏหมายเรื่องนี้การที่จำเลย บุกรุกก็เพื่อเข้าไปข่มขืนกระทำชำเราโจทก์ นับเป็นกรรมอันเดียวกันซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายหลายบทไม่ใช่เป็นการละเมิดกฎหมายหลายกะทงและความผิดฐานบุกรุกและฐานข่มขืนกระทำชำเราก็เป็นความผิดต่อส่วนตัวด้วยกัน เมื่อหนังสือสัญญายอมเลิกคดีนั้นใช้ได้ ก็ต้องถือว่ายอมเลิกคดีทั้งเรื่อง โจทก์จะมาฟ้องคดีเรื่องนี้อีกไม่ได้ จึงพิพากษาแก้ศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้องโจทก์โดยสิ้นเชิง