คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 828/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคัดค้านทรัพย์ก่อนมีคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ศาลชั้นต้นไม่ได้วินิจฉัยคำร้องของผู้ร้อง ศาลสูงมีอำนาจย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่ได้

ย่อยาว

คดีได้ความว่าผู้ร้องได้ยื่นคำร้องคัดค้านทรัพย์หมายเลข ๒ ไว้ต่อศาลชั้นต้น ๆ สั่งว่า “สำเนาให้โจทก์ ผู้ร้องและจำเลยเรื่องนี้ ศาลทำการสืบพยานมาจนนัดฟังคำพิพากษาแล้ววันนี้ เวลา ๑๔ น. ถ้าผู้ร้องต้องการทราบผล ก็คอยฟังเอา” แต่ในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นมิได้กล่าวถึงเรื่องของผู้ร้องที่ร้องคัดค้านไว้เลย ผลของคำพิพากษาก็คือให้ริบทรัพย์ที่ผู้ร้องได้ร้องคัดค้านไว้ ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ว่าชื่อไม่ตรงกัน คือในอุทธรณ์
มีชื่อนายคูเปนหยงและนายโค้วหันเชือง จึงไม่รับวินิจฉัย
ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาได้สั่งให้ศาลชั้นต้นสอบสวนว่าจะเป็นผู้ร้องหรือไม่ และในที่สุดฟังว่าเป็นผู้ร้องจริง ที่ชื่อผิดไปนั้นเป็นเพราะผู้ว่าความชั้นอุทธรณ์กับชั้นศาลเดิมต่างคนกัน ศาลฎีกาเห็นว่าเมื่อได้ความเช่นนี้ คดีมีเหตุที่จำต้องพิจารณาคำร้องของนายขู่หันช่องและนายไถปนหยง เพราะอยู่ในระหว่างเวลาที่มีสิทธิจะร้องได้ จึงให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาตามคำร้องของนายขู่หันช่องและนายไถปนหยงแล้วทำคำสั่งวินิจฉัยไปตามบทกฎหมายและรูปความ

Share