แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตามคำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่อ้างมูลเหตุให้จำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ในค่าเสียหายว่า เมื่อจำเลยที่ 4 รับสินค้าจากจำเลยที่ 3 เพื่อขนส่งทางรถยนต์ไปส่งมอบแก่ผู้เอาประกันภัย พบว่าสินค้าเสียหายเพิ่มอีก 1 กล่อง ในระหว่างการจัดเก็บโดยไม่ระมัดระวังและไม่ดูแลสินค้าในคลังสินค้าให้ดีเพียงพอของจำเลยที่ 3 และการขนส่งโดยรถยนต์บรรทุกโดยไม่ระมัดระวังและไม่ดูแลสินค้าให้ดีเพียงพอของจำเลยที่ 4 จึงเป็นการกล่าวอ้างถึงการทำหน้าที่ผู้รับฝากทรัพย์บกพร่องจนเกิดความเสียหายแก่สินค้าที่จัดเก็บไว้อันเป็นการผิดสัญญาฝากทรัพย์ที่ผู้ฝากทรัพย์ใช้สิทธิเรียกร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวแก่การฝากทรัพย์ซึ่งมีอายุความ 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสัญญาตามที่บัญญัติไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 671 จึงไม่มีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยในความรับผิดในมูลละเมิดที่จะใช้อายุความในเรื่องละเมิดแต่อย่างใด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินรวมดอกเบี้ยถึงวันฟ้องเป็นเงิน 468,903.69 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 454,694.49 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสี่ให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ข้อแรกว่า สิทธิเรียกร้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 3 เป็นสิทธิเรียกร้องตามสัญญาฝากทรัพย์ที่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 หรือไม่ ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์ฟ้องคดีนี้เรียกค่าเสียหายจากจำเลยที่ 3 ที่ทำให้สินค้าเสียหายในระหว่างที่จำเลยที่ 3 เก็บสินค้าไว้ในคลังสินค้าของจำเลยที่ 3 อันเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องต่อจำเลยที่ 3 ในมูลละเมิดที่มีอายุความ 1 ปี มิใช่อายุความ 6 เดือน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 แต่อย่างใดนั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องของโจทก์ในส่วนที่อ้างมูลเหตุให้จำเลยที่ 3 รับผิดต่อโจทก์ในคำฟ้องข้อ 7 ว่า เมื่อจำเลยที่ 4 รับสินค้าจากจำเลยที่ 3 เพื่อขนส่งทางรถยนต์ไปส่งมอบแก่บริษัทมูราโมโต้ อิเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แต่พบว่าสินค้าเสียหายเพิ่มอีก 1 กล่อง ในระหว่างการจัดเก็บโดยไม่ระมัดระวังและดูแลสินค้าให้ดีเพียงพอของจำเลยที่ 3 และการขนส่งโดยรถยนต์บรรทุกโดยไม่ระมัดระวังและไม่ดูแลสินค้าให้ดีเพียงพอของจำเลยที่ 4 คำฟ้องเช่นนี้เป็นการกล่าวอ้างถึงการทำหน้าที่ผู้ฝากทรัพย์บกพร่องจนเกิดความเสียหายแก่สินค้าที่จัดเก็บไว้เป็นการผิดสัญญาฝากทรัพย์ที่ผู้ฝากทรัพย์ใช้สิทธิเรียกร้องเรียกค่าสินไหมทดแทนเกี่ยวแก่การฝากทรัพย์ ซึ่งมีอายุความ 6 เดือน นับแต่วันสิ้นสัญญาตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 671 นั่นเอง กรณีจึงไม่มีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยในเรื่องความรับผิดของจำเลยที่ 3 ในมูลละเมิดที่จะใช้อายุความในเรื่องละเมิดแต่อย่างใด ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 เนื่องจากสิทธิเรียกร้องของโจทก์ขาดอายุความตามสัญญาฝากทรัพย์ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
สำหรับปัญหาตามอุทธรณ์ของโจทก์ข้อต่อไปว่า จำเลยที่ 4 ต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าหรือไม่นั้น ในส่วนสินค้ากล่องแรก โจทก์บรรยายฟ้องว่า สินค้ากล่องแรกนี้เสียหายในระหว่างที่อยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เท่านั้น ซึ่งไม่มีเหตุให้จำเลยที่ 4 ผู้ขนส่งทางบกแยกต่างหากจากจำเลยที่ 1 และที่ 2 ต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้ากล่องแรก จำเลยที่ 4 จึงไม่ต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้ากล่องแรก คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 4 ต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้ากล่องที่ 2 เพราะสินค้ากล่องที่ 2 เสียหายในระหว่างอยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 4 หรือไม่ ปัญหานี้ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบได้ความเพียงว่า ขณะจำเลยที่ 3 รับสินค้าไว้ที่คลังสินค้าท่าเรือกรุงเทพ สินค้าไม่ได้รับความเสียหาย แต่เมื่อจำเลยที่ 3 ส่งมอบสินค้าให้แก่จำเลยที่ 4 และมีการบันทึกสภาพสินค้าไว้ในรายการสำรวจสินค้า ผู้ตรวจสอบทุกฝ่ายพบว่า กล่องสินค้ามีรอยฉีกขาดที่พบเห็นได้ 1 กล่อง ตามรายงานการสำรวจความเสียหาย ซึ่งสรุปความเห็นของผู้สำรวจไว้ว่า สินค้าที่เสียหายกล่องที่ 2 ที่เปิดพบความเสียหาย เมื่อสินค้าอยู่ที่สถานที่ของบริษัทมูราโมโต้ อิเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นั้นน่าจะเสียหายในคราวเดียวกันกับกล่องแรก และจำเลยที่ 4 ก็มีนายรณชิต ผู้ดำเนินการในการขอตรวจปล่อยสินค้าที่ท่าเรือของจำเลยที่ 3 และดูแลการขนส่งสินค้าโดยรถยนต์บรรทุกจนถึงสถานที่ของบริษัทมูราโมโต้ อิเล็คตรอน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ให้ถ้อยคำและเบิกความยืนยันว่า สินค้าอีกหนึ่งกล่องมีรอยบุบเล็กน้อยตั้งแต่จำเลยที่ 3 ส่งสินค้าให้แก่จำเลยที่ 4 กับเมื่อคำนึงถึงงารถยกสินค้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายที่มีสองด้านแล้ว เมื่อด้านหนึ่งทำให้กล่องหนึ่งเสียหายมีรอยฉีกขาด งาอีกด้านหนึ่งซึ่งเสียบผิดที่ผิดทางก็ย่อมทำให้เกิดความเสียหายอีกกล่องได้เช่นกัน เพียงแต่อาจเสียหายไม่ถึงมีรอยฉีกขาด พยานหลักฐานของจำเลยที่ 4 มีน้ำหนักมากกว่าพยานหลักฐานของโจทก์ ฟังได้ว่ากล่องที่ 2 ไม่ได้เสียหายระหว่างอยู่ในความดูแลรักษาของจำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ขนส่งช่วงทางบกจากท่าเรือของจำเลยที่ 3 ถึงโรงงานของผู้เอาประกันภัย ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัยว่า สินค้าไม่ได้รับความเสียหายระหว่างอยู่ในความดูแลของจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 4 จึงไม่ต้องรับผิดนั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ