คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 697/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกับพวก 2 คนทำผิดฐานปล้นทรัพย์ ทางพิจารณาได้ความว่ามีผู้ร้าย 3 คน ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฎในทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ที่จะเป็นเหตุให้ศาลยกฟ้องได้
ข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อาญา ม.192 วรรค 2 นั้นต้องเป็นข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยทั้งสองกับพวกอีกสองคนสมคบกันทำการปล้นทรัพย์ แต่ในชั้นพิจารณาปรากฎจากพยานโจทก์ว่าเห็นผู้ร้าย ๓ คน คือจำเลยทั้งสองและนายส่อง แต่ในชั้นสอบสวนปรากฎว่ามีนายแนบด้วยอีกคนหนึ่ง
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยทั้งสองเป็นผู้ร้ายปล้นทรัพย์รายนี้ให้ลงโทษจำคุก ตาม ม.๓๐๑ ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม มีกำหนดคนละ ๑๐ ปี
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา โต้เถียงข้อหนึ่งว่า ข้อแตกต่างในเรื่องมีผู้ร้าย ๓ คน หรือ ๔ คนนี้ เป็นเรื่องที่ข้อเท็จจริงในทางพิจารณาต่างกับที่กล่าวในคำฟ้อง ต้องยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อแตกต่างเรื่องมีผู้ร้าย ๓ คน หรือ ๔ คน จำเลยยกขึ้นเป็นข้อโต้เถียงว่าเป็นเรื่องได้ความตามทางพิจารณาแตกต่างกับที่โจทก์กล่าวในฟ้อง ต้องยกฟ้องของโจทก์นั้นฟังไม่ขึ้น เพราะข้อเท็จจริงที่แตกต่างกันอันเป็นสาระสำคัญขององค์แห่งความผิด คดีนี้ได้ความว่ามีผู้ร้ายถึง ๓ คน มีอาวุธกระทำการปล้นผู้เสียหายดังฟ้อง ศาลนี้จึงเห็นพ้องด้วยศาลทั้งสองที่ฟังพยาน โจทก์ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดดังโจทก์หา
จึงพิพากษายืน

Share