คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5041/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดตามมาตรา 28 (2) และ 69 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ตามที่โจทก์ฟ้อง แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 31 และ 70 วรรคสอง โดยวางโทษก่อนลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 ให้จำคุก 3 เดือน และปรับ 50,000 บาท ซึ่งเป็นระวางโทษขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 70 วรรคสอง อันมิใช่ความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งมีระวางโทษขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 69 วรรคสอง ให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 100,000 บาท ดังนี้ จึงเป็นเพียงการปรับบทมาตราผิดเท่านั้น แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง แต่ก็ไม่อาจกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยตามระวางโทษที่บัญญัติไว้ในมาตรา 69 วรรคสองได้ เพราะจะมีผลเป็นการเพิ่มโทษแก่จำเลย
ตาม พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 75 ซึ่งบัญญัติให้เฉพาะสิ่งที่ได้ทำขึ้นอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้นตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ดังนั้น เมื่อแผ่นวีซีดีของกลางเป็นแผ่นวีซีดีอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย ศาลจึงไม่อาจพิพากษาให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๔ , ๖ , ๑๕ , ๒๗ , ๒๘ , ๖๙ , ๗๕ และ ๗๖ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓ ให้แผ่นวีซีดีของกลางตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และจ่ายค่าปรับกึ่งหนึ่งแก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๓๑ และ ๗๐ วรรคสอง ฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้า จำคุก ๓ เดือน และปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ เดือน ๑๕ วัน และปรับ ๒๕,๐๐๐ บาท เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ และ ๓๐ ให้แผ่นวีซีดีของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์ จำนวน ๑ แผ่น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และให้จ่ายเงินค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาฐานละเมิดลิขสิทธิ์เป็นจำนวนกึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้ละเมิดลิขสิทธิ์ในงานโสตทัศนวัสดุและสิ่งบันทึกเสียงและภาพในอัลบัมเพลงชุดโลโซปกแดงอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายโดยนำแผ่นวีซีดีอัลบัมเพลงชุดโลโซปกแดงอันมีลิขสิทธิ์จำนวน ๑ แผ่น ออกเผยแพร่ต่อสาธารณชนด้วยการนำมาเปิดบริการให้ลูกค้าในร้านอาหารของจำเลยฟังเพื่อแสวงหากำไรในทางค้าโดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๒๘ และ ๖๙ จำเลยให้การรับสารภาพ แสดงว่าจำเลยให้การรับสารภาพว่าจำเลยได้กระทำความผิดตามมาตรา ๒๘ (๒) และ ๖๙ วรรคสอง จริงตามที่โจทก์ฟ้อง แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๓๑ และ ๗๐ วรรคสอง โดยวางโทษก่อนลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ให้จำคุก ๓ เดือน และปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นระวางโทษขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๗๐ วรรคสอง ความผิดตามมาตรา ๓๑ และ ๗๐ วรรคสอง ดังกล่าวเป็นความผิดที่ผู้กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ได้กระทำต่องานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น อันมิใช่ความผิดที่ผู้กระทำละเมิดลิขสิทธิ์ได้กระทำต่องานอันมีลิขสิทธิ์ตามที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งมีระวางโทษขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๖๙ วรรคสอง ให้จำคุก ๖ เดือน และปรับ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ดังนี้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดตามมาตรา ๓๑ และ ๗๐ วรรคสอง จึงเป็นเพียงการปรับบทมาตราผิดเท่านั้น แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องเป็นพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๒๘ (๒) และ ๖๙ วรรคสอง อย่างไรก็ดี เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศจึงไม่อาจกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลยตามระวางโทษที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๖๙ วรรคสองได้เพราะจะมีผลเป็นการเพิ่มโทษแก่จำเลย
ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้แผ่นวีซีดีของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน ๑ แผ่น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์นั้น เห็นว่า แผ่นวีซีดีของกลางตามคำฟ้องเป็นแผ่นวีซีดีอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหาย จึงไม่อาจพิพากษาให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ได้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๗๕ ซึ่งบัญญัติให้เฉพาะสิ่งที่ได้ทำขึ้นอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เท่านั้นตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องเช่นกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๒๘ (๒) และ ๖๙ วรรคสอง จำคุก ๓ เดือน เมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้ว คงจำคุกจำเลยไว้มีกำหนด ๑ เดือน ๑๕ วัน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๑ ปี คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก.

Share