คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5038/2539

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำว่า”ผู้ปกครอง”ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา319หมายถึงผู้ใช้อำนาจปกครองอย่างบิดามารดาผู้เสียหายเป็นผู้ปกครองและดูแลผู้เยาว์ทั้งในฐานะน้าและนายจ้างโดยได้รับมอบหมายจากบิดามารดาของผู้เยาว์จึงเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองการที่จำเลยพาผู้เยาว์ไปจากผู้เสียหายโดยปราศจากเหตุอันสมควรเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา319วรรคแรก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276,319, 91
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิจารณา แล้ว พิพากษายก ฟ้อง
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 วรรคแรก จำคุก 2 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยแต่เพียงว่าผู้เสียหายเป็นผู้ปกครองหรือผู้ดูแลผู้เยาว์อันจะทำให้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 319 วรรคแรก หรือไม่ จำเลยฎีกาว่าที่โจทก์อ้างว่านางจุรีพร ศรีประเสริฐ ผู้เสียหายเป็นน้าของผู้เยาว์ โดยเป็นญาติห่าง ๆ กันนั้น โจทก์มิได้นำบิดามารดาของผู้เยาว์มาสืบยืนยันจึงเป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ โดยถือเอาความสัมพันธ์ที่เป็นญาติว่าเป็นผู้ปกครองหรือผู้ดูแล ซึ่งขัดกับคำเบิกความของผู้เยาว์ที่ตอบทนายจำเลยถามค้านว่า ก่อนหน้าที่ผู้เยาว์จะมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านของผู้เสียหาย ผู้เยาว์ก็ทำงานอยู่ที่ร้านอาหารทับทิมมาก่อน แสดงว่าผู้เสียหายมิได้ไปรับมาจากบิดามารดาของผู้เยาว์ และหลังเกิดเหตุแล้วไม่นาน ผู้เยาว์ก็ย้ายไปทำงานที่ร้านอาหารเจริญทิพย์ แสดงว่าผู้เยาว์มีอิสระในการทำงานและพักอาศัยจะไปไหนกับใครก็ไม่ต้องขออนุญาตจากใคร ปกติแล้วเด็กเสริ์ฟทำงานที่ไหนก็พักอาศัยอยู่กับร้านที่ตนทำงานอยู่ผู้เยาว์จึงมิได้อยู่ในความปกครองดูแลของผู้เสียหายแต่อย่างใดเห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 คำว่า ผู้ปกครองหมายถึงผู้มีฐานะทางกฎหมายเกี่ยวพันกับเด็กเช่นเป็นบิดามารดาซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองส่วนผู้ดูแลหมายถึงผู้ควบคุมระวังรักษาเด็กโดยข้อเท็จจริง เช่น ครูอาจารย์ นายจ้าง เป็นต้นคดีนี้นอกจากผู้เสียหายจะเบิกความว่า มีศักดิ์เป็นน้าของผู้เยาว์และเด็กหญิงนงเยาว์แล้ว ยังเบิกความด้วยว่า ได้ไปรับทั้งสองคนมาจากพ่อแม่ของคนทั้งสอง โดยได้บอกกับพ่อแม่ของคนทั้งสองว่าจะพามาเป็นเด็กเสิร์ฟช่วยขายอาหาร พ่อแม่ของคนทั้งสองบอกให้ผู้เสียหายปกครองดูแลคนทั้งสองด้วย ผู้เสียหายให้คนทั้งสองพักอาศัยอยู่ที่ร้านและห้ามไม่ให้ไปเที่ยวไหนกับผู้ชาย เมื่อจำเลยกับผู้เยาว์รู้จักกันแล้วมาระยะหลังจำเลยได้มาขออนุญาตพาผู้เยาว์ออกไปข้างนอก ผู้เสียหายไม่อนุญาต ในวันที่ 19 กันยายน 2536เวลาใกล้เที่ยงวัน จำเลยได้มาขออนุญาตพาผู้เยาว์ออกไปดูภาพยนตร์ผู้เสียหายก็ไม่อนุญาต หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์เด็กหญิงนงเยาว์เล่าให้ผู้เสียหายฟังว่าผู้เยาว์ได้เล่าฟังว่าจำเลยพาไปเที่ยวจังหวัดลพบุรีแล้วร่วมประเวณีด้วย เมื่อทราบจากเด็กหญิงนงเยาว์แล้วจึงได้สอบถามผู้เยาว์ว่าเป็นความจริงตามที่เด็กหญิงนงเยาว์บอกหรือไม่ ผู้เยาว์รับว่าจริง และบอกว่าอาทิตย์หน้าจำเลยจะพาคนมาสู่ขอ แต่เมื่อถึงกำหนด จำเลยไม่มาผู้เสียหายจึงให้เด็กหญิงนงเยาว์ไปตามจำเลยที่ร้านเสริมสวยเข็มทองที่จำเลยอาศัยอยู่ พี่สาวจำเลยบอกว่าไม่มีคนชื่อจำเลยอยู่ร้านนี้ เมื่อเด็กหญิงนงเยาว์กลับมาบอกผู้เสียหายและเด็กหญิงนงเยาว์ได้ไปที่ร้านเสริมสวยเข็มทองแจ้งเรื่องราวให้พี่สาวจำเลยทราบ และเห็นรถจักรยานยนต์ของจำเลยจอดอยู่ จึงบอกให้เรียกจำเลยมา จำเลยบอกให้รับผู้เยาว์มาคุยกันที่นี่ผู้เสียหายว่าผู้เยาว์ร้องไห้อยู่ที่ร้านให้ไปคุยกันที่ร้านจำเลยไม่ยอมไป ผู้เสียหายจึงแจ้งความโดยมีผู้เยาว์และเด็กหญิงนงเยาว์เบิกความสนับสนุนว่า ผู้เสียหายได้ไปรับทั้งสองคนมาจากจังหวัดน่านให้มาทำงานที่ร้านอาหารของผู้เสียหาย และพ่อแม่ของทั้งสองคนบอกให้ผู้เสียหายปกครองดูแลระหว่างที่อยู่ร้านอาหารและผู้เยาว์ก็เบิกความว่าได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตนให้เด็กหญิงนงเยาว์ฟังจริง และเด็กหญิงนงเยาว์ก็เบิกความว่าได้ไปตามจำเลยที่ร้านเสริมสวยเข็มทอง เมื่อได้รับแจ้งว่าไม่มีชื่อของจำเลยอยู่ในร้าน ก็ได้ไปที่ร้านเสริมสวยเข็มทองกับผู้เสียหายอีกครั้งหนึ่งจริง พยานโจทก์ทั้งสามเบิกความได้สอดคล้องต้องกันและรับกันเป็นอย่างดี จึงมิใช่มีเพียงคำเบิกความลอย ๆ ของผู้เสียหาย แต่ยังมีผู้เยาว์และเด็กหญิงนงเยาว์เป็นพยานสนับสนุนจึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า ผู้เสียหายเป็นผู้ปกครองและผู้ดูแลผู้เยาว์ทั้งในฐานะเป็นน้าและนายจ้างโดยได้รับมอบหมายจากบิดามารดาของผู้เยาว์ด้วยในขณะที่ผู้เยาว์ทำงานอยู่กับผู้เสียหายจริง การที่จำเลยมีการขออนุญาตจากผู้เสียหายพาผู้เยาว์ออกไปข้างนอกหรือพาไปดูภาพยนตร์ แต่ผู้เสียหายไม่อนุญาต นับเป็นการใช้อำนาจปกครองและดูแลผู้เยาว์ตามที่ได้รับมอบหมายจากบิดามารดาผู้เยาว์และตามความเป็นจริง เมื่อผู้เสียหายทราบเรื่องราวว่าผู้เยาว์ถูกจำเลยพาไปร่วมประเวณี ก็ได้เอาใจใส่ให้เด็กหญิงนงเยาว์ไปตามจำเลยมาเจรจากัน เมื่อได้รับการปฏิเสธก็ได้ติดตามไปพบจำเลยที่ร้านเสริมสวยเข็มทองซึ่งจำเลยพักอาศัยอยู่ เมื่อเจรจาตกลงกันไม่ได้ก็พาผู้เยาว์ไปแจ้งความ พฤติการณ์ดังกล่าวมาล้วนเป็นการแสดงตนใช้อำนาจปกครองดูแลผู้เยาว์ตามความเป็นจริง แม้ต่อมาภายหลังผู้เยาว์จะไปทำงานที่ร้านเจริญทิพย์ ก็เป็นเวลาภายหลังเกิดเหตุคดีนี้ แต่ขณะเกิดเหตุผู้เยาว์ยังอยู่ในความดูแลของผู้เสียหายการกระทำของจำเลยที่พาผู้เยาว์ไปร่วมประเวณีจึงเป็นการรบกวนสิทธิหรือแยกสิทธิในการควบคุมดูแลผู้เยาว์โดยปราศจากเหตุผลอันสมควรเป็นการพรากผู้เยาว์ไปจากความดูแลของผู้เสียหาย ตามนัยแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 319 ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share