แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การที่โจทก์ได้รับสัมปทานประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็กนั้นไม่มีบทกฎหมายห้ามมิให้ผู้อื่นประกอบการขนส่งอันมีลักษณะเป็นการแย่งผลประโยชน์ของโจทก์การที่จำเลยใช้รถจักรยานยนต์เดินรับจ้างขนส่งผู้โดยสารทับสัมปทานของโจทก์จึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ทั้งตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ.2522มาตรา5บัญญัติว่าพระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่รถจักรยานยนต์จำเลยจึงหาจำต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์ได้รับสัมปทานอนุญาตประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็กในเส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ จำเลยที่ 1เป็นผู้จัดตั้งหรือก่อตั้ง (หัวหน้าวิน) ให้มีการเดินรถจักรยานยนต์รับจ้างในเส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายและทำการขนส่งและขนถ่ายผู้โดยสารและสินค้าเช่นเดียวกับโจทก์จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 เข้าร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 โดยนำรถจักรยานยนต์รับจ้างขนส่งผู้โดยสารในเส้นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาตขอให้ห้ามจำเลยที่ 1 จัดตั้งหรือก่อตั้งให้มีการเดินรถจักรยานยนต์ในเส้นทางถนนสุขสวัสดิ์ และห้ามจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 นำรถจักรยานยนต์ใด ๆ เข้ารับจ้างในเส้นทางดังกล่าว ให้จำเลยที่ 2ถึงที่ 5 ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์คนละ 200 บาท ต่อวันนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 จะหยุดเดินรับส่งผู้โดยสาร ให้จำเลยที่ 1ร่วมกันหรือแทนกันกับจำเลยที่ 2 และหรือจำเลยที่ 3 และหรือจำเลยที่ 4 และหรือจำเลยที่ 5 ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ให้การว่า โจทก์ไม่ใช่ผู้รับสัมปทานไม่มีสิทธิห้ามผู้อื่นประกอบกิจการรับขนผู้โดยสารในเส้นทางตามฟ้องจำเลยที่ 1 ไม่ได้ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 การกระทำของจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ไม่เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง จำเลยที่ 3 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลย ที่ 5 ขาดนัด ยื่นคำให้การ ศาลชั้นต้นพิพากษาห้ามจำเลยที่ 1 และที่ 4 นำรถจักรยานยนต์ใด ๆ เข้าเดินรับจ้างในเส้นทางซอยสุขสวัสดิ์ที่โจทก์ได้รับสัมปทานกับให้จำเลยที่ 1 และที่ 4 ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์คนละ 500 บาทต่อเดือน นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดเดินรับผู้โดยสารในเส้นทางสัมปทานของโจทก์ โจทก์ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 4 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืน โจทก์ จำเลย ที่ 1 และ ที่ 4 ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์ได้รับสัมปทานประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็กจากปากซอยสุขสวัสดิ์ 76 จนถึงสุดซอยระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยถูกต้องตามกฎหมายจากสำนักงานขนส่งจังหวัดสมุทรปราการมีกำหนด 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2528 ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2533 เมื่อครบกำหนดแล้วโจทก์ได้รับสัมปทานต่ออีก 5 ปี โจทก์เก็บค่าโดยสารตลอดเส้นทางอัตราคนละ 2 บาท ปัญหามีว่า การที่จำเลยใช้รถจักรยานยนต์เดินรับจ้างขนส่งผู้โดยสารทับสัมปทานของโจทก์บางส่วนหรือทั้งหมดเป็นการละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ เห็นว่าพระราชบัญญัติ การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 5 บัญญัติว่าพระราชบัญญัติ นี้มิให้ใช้บังคับแก่รถจักรยานยนต์ ดังนี้ การใช้รถจักรยานยนต์เดินรับจ้างขนส่งผู้โดยสารจึงไม่จำต้องขออนุญาตจากนายทะเบียนทั้งการที่โจทก์ได้รับสัมปทานประกอบการขนส่งโดยรถขนาดเล็กไม่มีบทกฎหมายห้ามมิให้ผู้อื่นประกอบการขนส่งอันมีลักษณะเป็นการแย่งผลประโยชน์ของโจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ ไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นอื่นต่อไปฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 4 ฟังขึ้น ส่วนฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น” พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 4ด้วย นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์