คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4862/2551

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มาตรา 178 แห่ง พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 บัญญัติว่า “เจ้าหนี้ต่างประเทศซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้…” ย่อมหมายถึงเฉพาะเจ้าหนี้ต่างประเทศผู้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเท่านั้นที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 โดยต้องพิสูจน์ว่า เจ้าหนี้ในประเทศไทยก็มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายตามกฎหมายและในศาลแห่งประเทศของเจ้าหนี้ต่างประเทศผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ในทำนองเดียวกัน และเจ้าหนี้ต่างประเทศดังกล่าวได้รับหรือมีสิทธิจะได้รับทรัพย์สินหรือส่วนแบ่งจากทรัพย์สินของลูกหนี้นั้นนอกราชอาณาจักรเป็นจำนวนเท่าใดหรือไม่ และถ้ามี ตนยอมส่งทรัพย์สินหรือส่วนแบ่งจากทรัพย์สินของลูกหนี้ดังกล่าวมารวมไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในราชอาณาจักร
บริษัท อ. เจ้าหนี้เดิมซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้โดยได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 ครบถ้วนแล้ว ต่อมาเมื่อเจ้าหนี้เดิมได้โอนสิทธิเรียกร้องตามมูลหนี้ที่ขอรับชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้องและเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นเจ้าหนี้แทนเจ้าหนี้เดิมแล้ว ผู้ร้องในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจึงมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ไม่ว่าผู้ร้องจะเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรหรือไม่ก็ตาม โดยผู้ร้องไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากนางกฤษณา ผู้ชำระบัญชีร้องขอให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ไทยฟูจิ จำกัด ล้มละลาย ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2544
บริษัทไอบีเจ ลีสซิ่ง (ฮ่องกง) จำกัด เจ้าหนี้รายที่ 31 ซึ่งจดทะเบียนและมีสถานที่ทำการที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในมูลหนี้สัญญากู้ยืมและหนี้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เป็นเงิน 71,029,681.28 บาท จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 96 (3)
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา 104 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 แล้ว มีกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน เจ้าหนี้รายที่ 15 โต้แย้งคำขอรับชำระหนี้รายนี้
ระหว่างการสอบสวนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2546 เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องเข้าเป็นเจ้าหนี้รายที่ 31แทนบริษัท ไอบีเจ ลีสซิ่ง (ฮ่องกง) จำกัด ตามสำเนาหนังสือสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องฉบับลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2545
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเห็นว่า ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศเนื่องจากจดทะเบียนและมีสถานที่ทำการที่ประเทศอังกฤษ แต่มิได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 โดยมิได้แถลงนำส่งพยานหลักฐานดังกล่าวตามที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดนัด จึงเห็นควรให้ยกคำขอรับชำระหนี้
ศาลล้มละลายกลางพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 31 ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ร้องว่า ผู้ร้องต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 หรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 178 บัญญัติว่า “เจ้าหนี้ต่างประเทศซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรจะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้ต่อเมื่อได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้…” ย่อมหมายถึงเฉพาะเจ้าหนี้ต่างประเทศผู้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายเท่านั้นที่จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 ดังกล่าว โดยต้องพิสูจน์ว่าเจ้าหนี้ในประเทศไทยก็มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายตามกฎหมายและในศาลแห่งประเทศของเจ้าหนี้ต่างประเทศผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ได้ในทำนองเดียวกันและเจ้าหนี้ต่างประเทศดังกล่าวได้รับหรือมีสิทธิจะได้รับทรัพย์สินหรือส่วนแบ่งจากทรัพย์สินของลูกหนี้นั้นนอกราชอาณาจักรเป็นจำนวนเท่าใดหรือไม่ และถ้ามี ตนยอมส่งทรัพย์สินหรือส่วนแบ่งจากทรัพย์สินของลูกหนี้ดังกล่าวมารวมไว้ในกองทรัพย์สินของลูกหนี้ในราชอาณาจักร ซึ่งเกี่ยวกับคดีนี้ในชั้นสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ บริษัทไอบีเจ ลีสซิ่ง (ฮ่องกง) จำกัด เจ้าหนี้เดิม ผู้ยื่นคำขอรับชำระหนี้มีนายสมชัย ผู้รับมอบอำนาจ มาให้ถ้อยคำตามบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นของเจ้าหนี้รายที่ 31 แล้วว่า เจ้าหนี้เดิมจดทะเบียนและมีสถานที่ทำการในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตามกฎหมายของเขตปกครองพิเศษฮ่องกง เจ้าหนี้ในประเทศไทยก็มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายตามกฎหมายและในศาลแห่งเขตปกครองพิเศษฮ่องกงได้ในทำนองเดียวกันเนื่องจากไม่มีกฎหมายใดห้ามหรือจำกัดสิทธิเจ้าหนี้ต่างประเทศที่จะขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายในเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ทั้งไม่ปรากฏว่าลูกหนี้ประกอบกิจการหรือมีทรัพย์สินใดในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่เจ้าหนี้เดิมอาจได้รับหรือมีสิทธิจะได้รับทรัพย์สินหรือส่วนแบ่งจากทรัพย์สินของลูกหนี้นั้นนอกราชอาณาจักร ตามหนังสือรับรองพร้อมคำแปล ในสำนวนคำขอรับชำระหนี้ โดยไม่มีเจ้าหนี้รายใดโต้แย้งหรือนำสืบหักล้างให้เห็นเป็นประการอื่น ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้แล้วว่า การยื่นคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้เดิมชอบด้วยกฎหมายเพราะได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ครบถ้วนแล้ว ต่อมาเมื่อเจ้าหนี้เดิมได้โอนสิทธิเรียกร้องตามมูลหนี้สัญญากู้ยืมและหนี้ค่าใช้จ่ายที่ขอรับชำระหนี้ให้แก่ผู้ร้องตามสำเนาหนังสือสัญญาโอนสิทธิเรียกร้องฉบับลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2545 ในสำนวนคำขอรับชำระหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็ได้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องเข้าเป็นเจ้าหนี้รายที่ 31 แทนเจ้าหนี้เดิมแล้ว ผู้ร้องในฐานะผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องจึงมีสิทธิที่จะได้รับชำระหนี้ไม่ว่าผู้ร้องจะเป็นเจ้าหนี้ต่างประเทศซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่นอกราชอาณาจักรหรือไม่ก็ตาม โดยผู้ร้องไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่าผู้ร้องมิได้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขมาตรา 178 ดังกล่าวภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงทำความเห็นไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนคำขอรับชำระหนี้ แล้วต่อมาศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 31 ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังขึ้น และเมื่อศาลล้มละลายกลางยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า เจ้าหนี้รายที่ 31 มีสิทธิได้รับชำระหนี้ตามมูลหนี้สัญญากู้ยืมและหนี้ค่าใช้จ่ายเต็มตามจำนวนที่ขอรับชำระหนี้หรือไม่เพียงใด จึงเห็นควรให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณาและมีคำสั่งใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 243, 247 ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ.2542 มาตรา 28
พิพากษายกคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง ให้ศาลล้มละลายกลางพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้รายที่ 31 แล้วมีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share