แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายใช้มีดไล่ทำร้ายจำเลยถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจำเลยหนีขึ้นเรือนผู้อื่นเสียทัน ครั้นต่อมาลงจากเรือนผู้นั้นจะกลับบ้านผู้ตายยังมาดักทำร้ายอีก จำเลยหนี ผู้ตายถือมีดวิ่งไล่ตามไปในระยะกระชั้นชิดจำเลยพบมีดระหว่างทางทั้งหยิบมาป้องกันตัวประจบกับผู้ตายวิ่งไล่มาถึงตัวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไปในขณะนั้น 2 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง ตามพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า
ผู้ตายใช้มีดไล่ทำร้ายจำเลยถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกจำเลยหนีขึ้นเรือนผู้อื่นเสียทัน ครั้นต่อมาลงจากเรือนผู้นั้นจะกลับบ้านผู้ตายยังมาดักทำร้ายอีกจำเลยหนี ผู้ตายถือมีดวิ่งไล่ตามไปในระยะกระชั้นชิดจำเลยพบมีดระหว่างทาง ทั้งหยิบมาป้องกันตัว ประจวบกับผู้ตายวิ่งไล่มาถึงตัวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไปในขณะนั้น 2 ที ผู้ตายถึงแก่ความตายในที่นั้นเอง ตามพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันชีวิตจำเลยพอสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่านายรอง รักทองตายโดยเจตนา ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำโดยป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยกระทำการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙,๕๓ จำคุก ๕ ปี ลดตามมาตรา ๕๙ หนึ่งในสาม คงจำคุก ๓ ปี ๔ เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ตายได้ใช้มีดไล่ทำร้ายจำเลยถึง ๒ ครั้งครั้งแรกจำเลยวิ่งหนีขึ้นเรือนนางหีดนุ้ยเสียทัน ต่อมานานราวชั่วหุงข้าวสุกหนึ่งหม้อ ก็ลงเรือนจะกลับบ้าน ผู้ตายยังมาดักทำร้ายจำเลยอีก จำเลยวิ่งหนีผู้ตายถือมีดไล่ตามไปในระยะกระชั้นชิดจำเลยพบมีดระหว่างทางจึงหยิบมาป้องกันตัว ประจวบกับผู้ตายวิ่งไล่มาถึงตัวจำเลย จำเลยจึงใช้มีดฟันผู้ตายไปในขณะนั้น ๒ ที ผู้ตายล้มลงและขาดใจตายอยู่ในที่นั้น ตามพฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่าจำเลยกระทำการป้องกันชีวิตพอสมควรแก่เหตุ เพราะระหว่างนั้นเป็นเวลาฉุกเฉิน ซึ่งจำเลยตกอยู่ในระหว่างอันตราย ถ้าไม่กระทำการป้องกันตัวโดยฉับพลัน จำเลยอาจถูกผู้ตายทำร้ายถึงตายได้ แม้การกระทำของจำเลยจะหนักมือไปบ้าง ผู้ที่ตกอยู่ในฐานเช่นนี้นั้นย่อมเป็นการยากที่จะยับยั้ง
จึงพิพากษายืน