แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลอุทธรณ์ปรับบทลงโทษจำเลยไม่ถูกต้อง กับไม่ได้สั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายตามที่โจทก์ฟ้องขอมาด้วยศาลฎีกาแก้ไขให้ถูกต้องได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันมีอาวุธปืนลูกซองสั้นไม่มีหมายเลขทะเบียนและตราประทับของเจ้าพนักงานและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนและกระสุนปืนดังกล่าวไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุยกเว้นโทษตามกฎหมาย ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะร่วมกันชิงเอาทรัพย์ของผู้เสียหายไปโดยในการชิงทรัพย์นั้นจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันใช้ อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายจี้เชียงและผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าและเพื่อความสะดวกในการชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้นายจี้เชียงถึงแก่ความตาย และผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙, ๒๘๙, ๘๐, ๓๓๙, ๓๔๐ ตรี,๓๗๑, ๙๑, ๘๓, ๓๒, ๓๓ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ,๗๒, ๗๒ ทวิ ริบอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน กับเม็ดกระสุนปืนของกลางให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามจำนวนที่ผู้เสียหายทั้งสองถูกชิงเอาไป และนับโทษจำเลยทั้งสองต่อจากโทษในคดีอาญาตามฟ้อง
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ริบอาวุธปืน ปลอกกระสุนปืน และเม็ดกระสุนปืนของกลางคำขออื่นให้ยกเสีย
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๑
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ ๑ มีความผิดฐานร่วมกับพวกมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตกระทงหนึ่งและ พาอาวุธปืนกับเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุยกเว้นโทษตามกฎหมายอีก กระทงหนึ่งทั้งนี้ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๗, ๘ ทวิ, ๗๒, ๗๒ ทวิประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ส่วนฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตนั้น เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิและ ๗๒ ทวิ วรรคแรก ซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ จำคุก ๙ เดือนกับมีความผิดฐานชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและถึงแก่ความตาย โดยมีอาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙ วรรคสามและวรรคสุดท้าย ประกอบด้วยมาตรา ๓๔๐ ตรี กับฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การชิงทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๗) ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ ในกรรมเดียวกันนั้นผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๗) ซึ่งเป็นบทหนักวางโทษประหารชีวิตลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘คงลงโทษฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจำคุก ๑ ปี ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต จำคุก ๖ เดือนและฐานฆ่าผู้อื่น จำคุกตลอดชีวิต รวมจำคุกตลอดชีวิต ให้นับโทษจำเลยที่ ๑ ต่อจากโทษในคดีของศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้ให้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงฟังว่า จำเลยที่ ๑ ร่วมกระทำผิดคดีนี้แล้ววินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายต่อไปว่า แต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาตโดยปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิและมาตรา ๗๒ ทวิ วรรคแรก และปรับบทลงโทษจำเลยที่ ๑ ฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การชิงทรัพย์เพียงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๗) ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ กับไม่ได้สั่งให้จำเลยที่ ๑ คืนหรือใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายตามที่โจทก์อุทธรณ์ขอมาด้วยนั้น เห็นว่ายังไม่ถูกต้องสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า ส่วนความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิ วรรคแรกและ ๗๒ ทวิ วรรคสอง ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๐ กับมีความผิดฐานชิงทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กาย และถึงแก่ความตาย โดยมีอาวุธปืนและโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๙วรรคสาม และวรรคสุดท้าย ประกอบด้วยมาตรา ๓๔๐ ตรี กับฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น เพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การชิงทรัพย์นั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๙(๗) และมาตรา๒๘๙(๗) ประกอบด้วยมาตรา ๘๐ ในกรรมเดียวกันนั้นผิดต่อกฎหมายหลายบทลงโทษฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา ม าตรา ๒๘๙(๗) ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด กับให้จำเลยที่ ๑ คืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน ๓๐,๔๐๐ บาทแก่ผู้เสียหายด้วยนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์.