คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 480/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์กล่าวไว้ในคำแก้ ฎีกาว่า การเช่าที่ดินที่จำเลยอ้างว่าให้โจทก์เช่า จำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องปัญหาข้อนี้โจทก์ได้ยกข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การแก้ฟ้องแย้งแล้วจำเลยก็อุทธรณ์ถึงเรื่องค่าเช่าที่ค้างชำระด้วย แม้โจทก์ไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำแก้ อุทธรณ์ ก็ถือว่าปัญหาข้อนี้ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์ย่อมอ้างอิงปัญหาข้อนี้ในชั้นฎีกาได้ เมื่อฟ้องแย้งของจำเลยระบุชัด ว่า การเช่าที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งให้บังคับคดีเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากโจทก์ได้ เพราะต้องห้ามตามมาตรา 538 แห่ง ป.พ.พ..

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณกลางปี พ.ศ. 2509 จำเลยขายที่ดินตามน.ส.3 แก่โจทก์ราคา 10,300 บาท โดยตกลงด้วยวาจามิได้ทำเป็นหนังสือ โจทก์วางเงินมัดจำ 3,000 บาท จำเลยมอบสิทธิครอบครองในที่ดินดังกล่าวให้ดจทก์ทำกินแล้ว ส่วนราคาที่ดินที่เหลือจำเลยยอมให้โจทก์ผ่อนชำระจนกว่าจะครบถ้วน แล้วจะดำเนินการจดทะเบียนโอนภายหลังโดยโจทก์จะต้องเป็นผู้ออกค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนโอนเองต่อมา พ.ศ. 2513 โจทก์ชำระราคาที่ดินแก่จำเลย 3,000 บาท พ.ศ. 2518ชำระ 1,300 บาท และ พ.ศ. 2527 โจทก์ชำระงวดสุดท้ายอีก 3,000 บาทโจทก์ขอให้จำเลยโอนทางทะเบียนให้โจทก์ แต่จำเลยผัดผ่อนเรื่อยมาขอให้จำเลยไปดำเนินการจดทะเบียนโอนขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ หากจำเลยไม่ไปขอให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทนจำเลย กับขอให้แสดงว่าที่ดินดังกล่าวเป็นสิทธิครอบครองของโจทก์เพียงผู้เดียว หากการดำเนินการดังกล่าวขัดข้อง ให้จำเลยชดใช้ราคาที่ดินในขณะฟ้องจำนวน 44,625 บาท แก่โจทก์
จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า เมื่อ พ.ศ. 2509 จำเลยได้ตกลงให้โจทก์เช่าที่ดินพิพาทเพื่อทำนามีกำหนด 5 ปี คิดค่าเช่าปีละ 1,000บาท โดยไม่ได้ทำหนังสือแต่อย่างใด โจทก์ได้มอบค่าเช่าที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยในวันที่ตกลงจำนวน 3,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 2,000 บาทให้โจทก์ชำระในแต่ละปี ปีละ 1,000 บาท ใน พ.ศ. 2512 ซึ่งเป็นปีที่ 4 โจทก์ไม่ได้ชำระค่าเช่า ใน พ.ศ. 2513 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายในการเช่า โจทก์ได้นำเงินค่าเช่าที่เหลืออีก 2,000 บาท มามอบให้จำเลยและขอเช่าที่ดินพิพาทต่อไปอีก จำเลยยินยอมให้โจทก์เช่าโดยไม่ได้กำหนดระยะเวลา และไม่ได้ทำหนังสือไว้แต่ขอเพิ่มค่าเช่าเป็นปีละ 2,000 บาท และขอให้จำเลยชำระค่าเช่าบางส่วน โจทก์ตกลงและชำระค่าเช่าล่วงหน้า 1,000 บาท หลังจากนั้นโจทก์ค้างชำระค่าเช่าเรื่อยมา จนถึง พ.ศ. 2518 โจทก์นำเงินค่าเช่ามาชำระให้จำเลยจำนวน 1,300 บาท และ พ.ศ. 2527 โจทก์นำเงินค่าเช่ามาชำระให้จำเลยอีก 3,000 บาท ในการเช่าที่ดินพิพาทครั้งหลังตั้งแต่ พ.ศ. 2514ถึง พ.ศ. 2528 เป็นระยะเวลา 15 ปี ร่วมค่าเช่าทั้งสิ้น 30,000 บาทโจทก์ให้ค่าเช่าจำเลยเพียง 5,300 บาท ยังคงค้างอยู่อีก 24,700 บาทโจทก์เป็นผู้เช่าทำนาจึงไม่ได้สิทธิครอบครองที่ดินพิพาท ขอให้ยกฟ้องและให้โจทก์ชำระค่าเช่าที่ค้างจำนวน 24,700 บาทแก่จำเลย
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า โจทก์ไม่เคยตกลงเช่าที่ดินพิพาทกับจำเลยการเช่าไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือจะนำมาฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ จำเลยจึงไม่อาจอ้างสิทธิในการเรียกร้องค่าเช่า ค่าเช่าตั้งแต่ พ.ศ. 2519 ถึง พ.ศ. 2528 ขาดอายุความเรียกร้องขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนขายที่ดินพิพาทแก่โจทก์ หากจำเลยไม่ไปก็ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย หากขัดข้องก็ให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน 44,625 บาทแก่โจทก์แทน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เช่าที่ดินพิพาทจากจำเลย แล้ววินิจฉัยว่า “ฎีกาของจำเลยที่ว่า โจทก์ยังค้างชำระค่าเช่าที่ดินพิพาทเป็นเงิน 24,700 บาทนั้นโจทก์กล่าวไว้ในคำแก้ฎีกาว่า การเช่าที่จำเลยอ้างว่าให้โจทก์เช่า จำเลยก็ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ปัญหาข้อนี้โจทก์ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การแก้ฟ้องแย้งแล้ว จำเลยก็อุทธรณ์ถึงเรื่องค่าเช่าที่ค้างชำระด้วย แม้โจทก์ไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำแก้อุทธรณ์ก็ถือว่าปัญหาข้อนี้ได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์แล้ว โจทก์ย่อมอ้างอิงปัญหาข้อนี้ในชั้นฎีกาได้ เมื่อฟ้องแย้งของจำเลยระบุชัดว่าการเช่าที่ดินพิพาทระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ จำเลยจึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งให้บังคับคดีเรียกค่าเช่าที่ค้างชำระจากโจทก์ได้ เพราะต้องห้ามตามบทบัญญัติมาตรา 538 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ฎีกาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
อนึ่ง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า จำเลยได้ขายที่ดินพิพาทให้โจทก์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2509 และโจทก์ได้ชำระราคาครบถ้วนแล้ง แต่มิได้พิพากษายกฟ้องแย้งของจำเลย ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโดยมิได้แก้ไขให้ถูกต้อง ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ให้ถูกต้อง”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลยและให้ยกฟ้องโจทก์.

Share