คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 478/2535

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การพนันป๊อกเป็นการพนันประเภทห้ามขาด การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นและมีผู้เข้าร่วมเล่นถึง 22 คน นับว่าเป็น การพนันรายใหญ่ ผู้เล่นล้วนแต่มีอาชีพรับจ้าง ทำไร่ ทำนา แทนที่ จะประกอบอาชีพโดยสุจริตกลับมั่วสุมเล่นการพนันอันเป็นสิ่งมอมเมา และเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมือง การกระทำของจำเลยที่ 1 จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งหมดนี้กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้ร่วมกันเล่นการพนันป๊อก อันเป็นการพนันประเภทห้ามขาด โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นขึ้น จำเลยที่ 2 ถึงที่ 23เป็นผู้เข้าเล่นการพนัน ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งหมดไม่ได้รับอนุญาตขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6,10, 12, 15 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2504 มาตรา 3 ริบของกลางและให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย
จำเลยทั้งยี่สิบสามคนให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 พระราชบัญญัติการพนัน(ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 พระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ 7)พ.ศ. 2504 มาตรา 3 จำเลยทั้งหมดให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลงโทษจำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้จัดจำคุก 2 เดือน ปรับ 2,000 บาท จำเลยนอกนั้นปรับคนละ 1,000 บาทสำหรับจำเลยที่ 1 โทษจำคุกรอไว้ 2 ปี ไม่ชำระค่าปรับให้กักขังแทนริบของกลาง ให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับกึ่งหนึ่งของค่าปรับ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 หนักขึ้นและไม่รอลงโทษจำคุก
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงให้จำคุก 2 เดือน สถานเดียวโดยไม่ลงโทษปรับและไม่รอการลงโทษ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “…การพนันป๊อกเป็นการพนันประเภทห้ามขาดการที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดให้มีการเล่นและมีผู้เข้าร่วมเล่นถึง22 คน นับว่าเป็นการพนันรายใหญ่ ผู้เล่นล้วนแต่มีอาชีพรับจ้างทำนา แทนที่จะประกอบอาชีพโดยสุจริตกลับมั่วสุมเล่นการพนันอันเป็นสิ่งมอมเมาและเป็นอบายมุขที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของชาติบ้านเมือง การกระทำของจำเลยที่ 1 ดังกล่าวจึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้…”
พิพากษายืน.

Share