แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกา ศาลฎีกาสั่งว่าพิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 และที่ 3ไม่นำเงิน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงที่จะต้องชำระให้โจทก์ตาม คำพิพากษา หรือหาประกันมาวางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 ก่อน จึงให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 และที่ 3 เห็นว่า คำสั่งศาลฎีกาดังกล่าวคลาดเคลื่อนในข้อกฎหมายและรูปคดีและฎีกาของจำเลยที่ 2และที่ 3 เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ทนายโจทก์แถลงคัดค้าน (อันดับ 155)
คดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับคดีอื่นอีกสองสำนวนและสำนวนทั้งสองนั้นได้ถึงที่สุดแล้วโดยไม่ได้อุทธรณ์และฎีกา โดยให้เรียกจำเลยในสำนวนที่ไม่ได้อุทธรณ์ ว่า จำเลยที่ 1 และเรียกจำเลยในสำนวนหลังนี้ว่า จำเลยที่ 2 และที่ 3 ตามลำดับ และเรียกจำเลยในสำนวนที่ไม่ได้ฎีกา นั้นว่า จำเลยที่ 4
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4และบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์โฉนดเลขที่ 2071 เลขที่ดิน 208 แขวงตลาดบางเขน กรุงเทพมหานคร พร้อมกับรื้อบ้านและสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ออกไป ห้ามมิให้เข้ามาเกี่ยวข้องอีกต่อไปและให้จำเลยที่ 4ใช้ค่าเสียหายเดือนละ 1,000 บาทให้แก่โจทก์ นับแต่วันที่1 เมษายน 2531 อันเป็นวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 4และบริวารจะออกไปจากที่ดินของโจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา(อันดับ 141)
จำเลยที่ 2 และที่ 3 ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาศาลฎีกามีคำสั่งดังกล่าว (คำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 1567-1568/2535)
จำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 152)
คำสั่ง
คำสั่งศาลฎีกาถึงที่สุดแล้ว ให้ยกคำร้อง