คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 475/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แบบ ท.ย.11-ต.55 เป็นแบบพิมพ์คำแจ้งความเรื่องโอนและรับโอนยานพาหนะซึ่งใครๆ ก็กรอกข้อความเอาเองแล้วยื่นต่อนายทะเบียนยานพาหนะเพื่อสั่งและเป็นคำแจ้งความต่อนายทะเบียนฯเพื่อแก้ทะเบียนรถยนต์เท่านั้น ไม่ใช่หนังสือที่เจ้าหน้าที่ต้องเรียบเรียงหรือรับว่าเป็นของแท้ตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 6(19) และไม่ใช่หนังสือสำคัญแก่การตั้งกรรมสิทธิ์หรือหลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้เลิกล้างโอนกรรมสิทธิ์อย่างใดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา6(20)
ผู้ใดใช้หนังสือดังกล่าวซึ่งเป็นหนังสือปลอมจึงผิดตามมาตรา 223, 227 ไม่ใช่ 224,225,227

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเอาความเท็จไปแจ้งต่อปลัดอำเภอเมืองชลบุรีว่า จำเลยซื้อรถยนต์หมายเลข ช.บ.0002 และเจ้าของเดิมได้มอบทะเบียนรถให้แก่จำเลยแล้ว จำเลยทำหายเสียแล้ว เจ้าพนักงานเชื่อและรับแจ้งเหตุไว้และจำเลยไปแจ้งเท็จต่อนายทะเบียนยานพาหนะจังหวัดชลบุรีและ ส.ต.ต.ดำรงค์ว่า ทะเบียนรถยนต์หมายเลขดังกล่าวหายได้แจ้งความต่ออำเภอเมืองชลบุรีแล้ว นายทะเบียนจึงคัดสำเนาใบทะเบียนรถยนต์หมายเลขดังกล่าวให้แก่จำเลยแล้วจำเลยได้นำเอาใบแจ้งความเรื่องโอนและรับโอนยานพาหนะทางบกมีลายเซ็นในช่องผู้โอนว่า “นายอุดม ชื่นชม” ซึ่งจำเลยรู้อยู่แล้วว่าเป็นลายมือชื่อปลอมไปแจ้งต่อนายทะเบียนยานพาหนะจังหวัดชลบุรีว่า เจ้าของเดิมได้โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์หมายเลขดังกล่าวให้แก่จำเลย เจ้าพนักงานมีคำสั่งอนุญาตให้โอนเป็นชื่อของจำเลย ความจริงเจ้าของเดิมไม่ได้โอนขายให้แก่จำเลยขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118,227, 224, 225, 71

จำเลยรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118 ต่างกรรมต่างวาระและผิดตามมาตรา 227, 224, 225 ที่แก้ไขโดยมาตรา 3 ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลย 3 ปี ลดตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงเหลือ 1 ปี 6 เดือน แต่จำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษามาก่อน ฯลฯ จึงให้รอการลงอาญาไว้มีกำหนด 5 ปี

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเอาความเท็จมากล่าวหลายคราวโดยไม่รู้สึกหวั่นเกรงเจ้าพนักงาน และยังเอาหนังสือปลอมมาใช้นับว่าเป็นการร้ายแรงพิพากษาแก้เฉพาะข้อที่ให้รอการลงโทษเป็นให้ลงโทษจำเลยไปทีเดียว

จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ

ศาลฎีกาเห็นพ้องตามคำพิพากษาศาลล่างทั้งสองในเรื่องความผิดฐานแจ้งความเท็จ ส่วนความผิดในเรื่องใช้หนังสือปลอมซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยมาตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 227, 224, 225 นั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย และเห็นว่าหนังสือปลอมที่จำเลยนำมาใช้คือคำแจ้งความเรื่องโอนและรับโอนยานพาหนะทางบกแบบ ท.บ.11-ต.55 นั้น เป็นแบบพิมพ์ซึ่งใคร ๆ เขียนกรอกข้อความลงไปได้เองแล้วยื่นต่อนายทะเบียนฯ เพื่อสั่ง มิใช่หนังสือที่เจ้าหน้าที่ต้องเรียบเรียงหรือรับว่าเป็นของแท้ จึงไม่ใช่หนังสือราชการตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 6(19) และเป็นเพียงคำแจ้งความต่อนายทะเบียนฯ เพื่อให้แก้ทะเบียนรถยนต์เท่านั้นหาใช่หนังสือซึ่งเป็นสำคัญแก่การตั้งกรรมสิทธิ์หลักฐานแก่การเปลี่ยนแก้เลิกจ้างโอนกรรมสิทธิ์อย่างใดตามมาตรา 6(20) ไม่ จึงพิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 118, 223, 227 ให้ลงอาญาจำคุก 2 ปี ลดตามมาตรา 59 กึ่งหนึ่งคงเหลือ 1 ปีนับแต่วันต้องขังไป ปรากฏว่าจำเลยวางแผนการใช้อุบายหลอกลวงเจ้าพนักงานหลายครั้งโดยมิได้กลัวเกรง จึงไม่รอการลงโทษให้

Share