คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 351/2470

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ยึดทรัพย์ โดยผิดหลงต้องรับผิดชอบ วิธีพิจารณาความแพ่งขายทอดตลาดบุคคลที่ 3 รับซื้อไว้โดยสุจริตได้กรรมสิทธิ์ ลาภมิควรได้อายุความนับแต่วันขาย

ย่อยาว

ได้ความว่า เดิมพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้พระคลังข้างที่ปลูกเรือนให้บิดามารดานายช่วงอาศรัยอยู่ ต่อมานายช่วงแพ้ความจำเลยที่ ๑ ๆ นำยึดห้องแถวซึ่งอยู่น่าเรือน มีผู้ร้องขัดทรัพย์ ศาลจึงสั่งให้ถอนการยึดนั้น จำเลยที่ ๑ จึงฟ้องนายช่วงเปนคดีอาญาหาว่ายักยอก นายช่วงจึงนำหนังสือมอบให้เรือนรายพิภาษนี้เปนประกันแก่จำเลยที่ ๑ ๆ จึงนำยึด กองหมายได้ส่งประกาศขายไปให้กรมพระคลังข้างที่ ๆ ไม่ว่ากล่าวประการใด จนกองหมายได้ขายโดยคำสั่งศาลให้แก่จำเลยที่ ๒ โดยสุจริตเปนราคาเงิน ๑๘๕๐ บาท
ครั้นเมื่อขายไปแล้วพระคลังข้างที่จึงมาขัดขวางไม่ให้จำเลยที่ ๒ รื้อเรือน ศาลสั่งให้พระคลังข้างที่จัดแจงฟ้องร้อง แต่ก็หาทำไม่จนล่วงเลยมาประมาณเกือบปี
ปัญหาจึงมีว่าจำเลยที่ ๑ ผู้ซึ่งนำเจ้าพนักงานยึดทรัพย์ผิดแลจำเลยที่ ๒ ผู้ซื้อไว้โดยสุจริตจะต้องรับผิดชอบเพียงไร
ฎีกาตัดสินว่ากองหมายได้จัดการทำไปตามคำสั่งของศาล (พ.ร.บ.วิธีพิจารณาความแพ่ง ร.ศ. ๑๒๗ ม. ๘๑ – ๘๒) แลได้ประกาศขายตามระเบียบ จำเลยที่ ๒ เปนบุคคลที่ ๓ ซื้อไว้โดยสุจริตย่อมได้กรรมสิทธิ์ไม่ต้องรับผิดชอบอย่างใด ส่วนจำเลยที่ ๑ นำยึดทรัพย์ของผู้อื่นโดยผิดหลงต้องรับผิดชอบแต่คดีนี้ปรากฏว่าพระคลังข้างที่เลินเล่อปล่อยให้นายช่วงแสดงตนว่าเปนเจ้าของแลไม่ร้องคัดค้านเมื่อเวลาประกาศขายแลจัดการฟ้องร้องภายในกำหนดศาลสั่ง จะมาฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้ตามนัย ฎีกาที่ ๓๗๓/๒๔๕๖ จึงให้ จำเลยที่ ๑ คืนเงินฉะเพาะที่ได้รับจากกองหมายให้แก่พระคลังข้างที่

Share