แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อความที่กล่าวว่า’ข้าพเจ้าจึงขอความกรุณารับซื้อไม้สักนี้ต่อไป ส่วนราคานั้นทางการจะขายเท่าใดแล้วแต่จะเห็นสมควร’เป็นคำแสดงความประสงค์ใคร่จะขอซื้อโดยขอให้อีกฝ่ายหนึ่งกำหนดราคามาก่อน หามีลักษณะเป็นคำเสนอไม่
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาหมายความว่าโดยรวดเร็วเมื่อโจทก์ทราบคำเสนอของจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 เดือนเดียวกันก็ยังไม่ตอบสนองรับจึงถือได้ว่าเกินกำหนดเวลาของคำว่าโดยด่วนแล้ว คำเสนอของจำเลยย่อมสิ้นสุดเพิกถอนแล้ว
ย่อยาว
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ได้ยื่นคำเสนอเป็นหนังสือขอซื้อไม้ซุงสักจำเลย 1,350 ท่อน ในราคาแล้วแต่จำเลยที่ 1 จะกำหนดจำเลยที่ 2 มีหนังสือสนองรับมาถึงโจทก์ว่าจำเลยที่ 1 จำหน่ายให้ 1,346 ท่อน เป็นเงินแปดแสนบาทเศษ ให้โจทก์นำเงินไปชำระ ครั้นโจทก์เตรียมเงินไปชำระ จำเลยที่ 2 มีหนังสือระงับการขายไม้รายนี้จึงขอให้จำเลยขายไม้รายนี้หรือใช้ผลกำไรที่โจทก์ควรได้ 944,524 บาท
จำเลยต่อสู้ว่าไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายต่อกัน หนังสือของโจทก์เป็นหนังสือเจรจาขอซื้อไม้และให้กำหนดราคาไม่ใช่ค่าเสนอ หนังสือที่จำเลยมีไปเป็นเพียงบอกราคาและแก้จำนวนไม้ทั้งจำกัดเวลาชำระโดยด่วน ไม่ใช่คำสนองรับอย่างมากก็เป็นคำเสนอ ยังไม่เกิดสัญญาเมื่อเกินเวลาสมควรจำเลยจึงบอกระงับการขายไม้
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าหนังสือของจำเลยไม่เป็นคำสนองโจทก์จำเลยไม่ได้ซื้อขายไม้ต่อกัน ให้ยกฟ้อง แต่มีผู้พิพากษานายหนึ่งแย้งว่าเอกสาร จ.9 เป็นคำสนองรับคำเสนอแล้วจึงเกิดเป็นสัญญาขึ้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาว่า ข้อความสำคัญในเอกสาร จ.1 กล่าวว่า”ข้าพเจ้าขอความกรุณารับซื้อไม้สักนี้ต่อไปส่วนราคานั้นทางการจะขายเท่าใดแล้วแต่จะเห็นสมควร” ซึ่งโจทก์ถือว่าเป็นสาระสำคัญอันควรถือได้ว่าเป็นคำเสนอขอซื้อไม้รายนี้
ศาลฎีกาเห็นว่าข้อความที่กล่าวนี้มิใช่มีลักษณะเป็นคำเสนอเพราะมิได้กำหนดข้อความให้ชัดแจ้งพอที่จะก่อให้บังเกิดความผูกพันประการใดเป็นเพียงคำแสดงความประสงค์ใคร่จะขอซื้อ โดยขอให้ฝ่ายจำเลยกำหนดราคามาก่อน ซึ่งเท่ากับขอร้องให้จำเลยทำคำเสนอขายมายังโจทก์แล้วแต่จะกำหนดมา ถ้ากำหนดมากไปโจทก์ก็คงไม่ยอมรับ เพราะไม่มีข้อผูกพันต่อกันเป็นเรื่องที่จะต้องเจรจาหาความตกลงกันต่อไปซึ่งระหว่างนั้นยังไม่มีสัญญาเกิดขึ้น
ส่วนเอกสาร จ.9 ถือได้ว่าเป็นคำเสนอ จำเลยเสนอขายไม้ให้แก่โจทก์ กับมีข้อความสำคัญว่า โจทก์ต้องชำระราคาไม้และค่าผูกพันเป็นเงินสดและโดยด่วน โจทก์หาได้ปฏิบัติตามคำเสนอของจำเลยไม่
คำว่าโดยด่วนนั้นเป็นเงื่อนเวลาซึ่งหมายความว่าโดยรวดเร็วโจทก์ทราบคำเสนอของจำเลยก่อนวันที่ 4 มีนาคม 2495 จนวันที่ 26 มีนาคม 2495 ก็ยังไม่ตอบสนองรับคำเสนอของโจทก์ ซึ่งนับว่าเกินเวลาของคำว่าโดยด่วนนั้นแล้ว แต่ถึงแม้จะเกินเวลาแล้วก็ดี จำเลยก็ยังมีหนังสือแจ้งต่อโจทก์บอกระงับการขายไม้รายนี้ให้เป็นการแน่นอนชัดยิ่งขึ้นว่า คำเสนอของจำเลยสิ้นสุดเลิกถอนแล้ว ฉะนั้นสัญญาซื้อขายไม้ในระหว่างโจทก์จำเลยจึงยังมิอาจบังเกิดขึ้นได้
จึงพิพากษายืน