คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4747/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์คำสั่งอ้างว่า ในวันครบกำหนดยื่นอุทธรณ์ ทนายโจทก์เพิ่งได้รับแต่งตั้งจากโจทก์ ให้อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์แต่ทนายโจทก์ยังไม่ทราบรายละเอียด และข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะอุทธรณ์คำสั่งได้เมื่อการยื่นอุทธรณ์ดังกล่าว เป็นเพียงคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องในกรณีที่โจทก์ขอให้ไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ยังมิได้เป็นการวินิจฉัยถึงเนื้อหาของคดี รูปคดีจึงมิได้มีความสลับซับซ้อนเป็นพิเศษถึงกับจะเป็นเหตุให้ ทนายโจทก์ศึกษารายละเอียดและข้อเท็จจริงไม่ทัน ทนายโจทก์ ก็ยอมรับมาในฎีกาว่าระยะเวลาที่จะทำอุทธรณ์เหลือเวลาอีก ไม่ถึง 7 วัน แสดงว่าก่อนครบกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ทนายโจทก์ยังมีเวลาเพียงพอ ที่จะดำเนินการได้ ข้ออ้างของโจทก์ ตามคำร้องยังถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะขยาย ระยะเวลายื่นอุทธรณ์ให้ได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ในวันไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด ศาลชั้นต้นจึงมีคำสั่งให้ยกฟ้องโจทก์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166

โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นยกคดีขึ้นไต่สวนมูลฟ้องใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง ในวันครบกำหนดอุทธรณ์คำสั่ง โจทก์ยื่นคำร้องว่า ทนายโจทก์เพิ่งได้รับแต่งตั้งจากโจทก์ให้อุทธรณ์คำสั่ง แต่ทนายโจทก์ยังไม่ทราบรายละเอียดและข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ และระยะเวลาที่จะดำเนินการมีไม่เพียงพอ จึงขอให้ศาลสั่งขยายระยะเวลายื่นคำฟ้องอุทธรณ์คำสั่งต่อไปอีก 15 วัน

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 บัญญัติว่า การขยายเวลาให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ แต่เหตุที่อ้างในคำร้องนี้ ไม่ปรากฏว่ามีพฤติการณ์พิเศษแต่อย่างใด จึงไม่อนุญาต

โจทก์อุทธรณ์ว่า โจทก์มีความจำเป็นและตกอยู่ในกรณีพิเศษ ขอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาหรือคำสั่งกลับคำสั่งศาลชั้นต้น

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ศาลจะออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลา ต้องพิจารณาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ซึ่งมาตรา 23 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง บัญญัติให้ศาลทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและศาลมีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลา เว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัยปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยต่อไปมีว่า ข้ออ้างของโจทก์ตามคำร้องขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ถือได้หรือไม่ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษ พิเคราะห์แล้วที่โจทก์อ้างว่าในวันครบกำหนดยื่นอุทธรณ์ ทนายโจทก์เพิ่งได้รับแต่งตั้งจากโจทก์ให้อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์แต่ทนายโจทก์ยังไม่ทราบรายละเอียดและข้อเท็จจริงเพียงพอที่จะอุทธรณ์คำสั่งได้ศาลฎีกาเห็นว่า การยื่นอุทธรณ์ในชั้นนี้เป็นเพียงคัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกคำร้องในกรณีที่โจทก์ขอให้ไต่สวนมูลฟ้องใหม่ยังมิได้เป็นการวินิจฉัยถึงเนื้อหาของคดี รูปคดีจึงมิได้มีความสลับซับซ้อนเป็นพิเศษ ถึงกับจะเป็นเหตุให้ทนายโจทก์ศึกษารายละเอียดและข้อเท็จจริงไม่ทัน ทนายโจทก์ก็ยอมรับมาในฎีกาว่า ระยะเวลาที่จะทำอุทธรณ์เหลือเวลาอีกไม่ถึง 7 วัน แสดงว่าก่อนครบกำหนดระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ทนายโจทก์ยังมีเวลาเพียงพอที่จะดำเนินการได้ ข้ออ้างของโจทก์ตามคำร้องเช่นนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะพึงขยายระยะเวลาการยื่นอุทธรณ์ให้โจทก์ได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนไม่อนุญาตตามคำร้องของโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share