แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์พร้อมกับคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวนคำร้องและส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์แก่จำเลย โดยให้โจทก์นำส่งใน 7 วัน ต่อมาโจทก์ยื่นคำแถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดี อย่างคนอนาถาต่อไปและได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2528 ให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้ จำเลยแก้ใน 15 วัน โดยให้โจทก์นำส่งใน 7 วัน หมายแจ้งคำสั่ง ให้ทนายโจทก์ทราบ โจทก์ได้ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการส่งต่อ เจ้าหน้าที่เดินหมายเมื่อวันที่16 มกราคม 2528 แต่พนักงานเดินหมายได้นำ หมายนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาพร้อมกับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งแก่จำเลยในวันที่ 17 มกราคม 2528 โดยพนักงานเดินหมายอาจไม่ทราบว่าได้มีการงดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้ว และโจทก์อาจจะเข้าใจผิดว่า การที่โจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการ นำ ส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ไว้แล้วนั้น เป็นการนำส่งหมายนัดให้จำเลยแก้อุทธรณ์แล้วเพราะโจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการนำส่งดังกล่าว หลังจากศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์แล้วถึง 6 วันโจทก์จึงมิได้ นำส่งอีก แม้ต่อมาภายหลัง โจทก์จะได้รับหมายแจ้งคำสั่งให้นำ ส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลยอีกครั้งหนึ่ง แต่หมายแจ้งคำสั่ง ดังกล่าวลงวันที่14 มกราคม 2528 ซึ่งเป็นวันก่อนที่โจทก์ได้ชำระ ค่าธรรมเนียมในการนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์โจทก์จึงอาจเข้าใจได้อีกว่าโจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการนำส่งตามหมายแจ้งคำสั่ง ของศาลชั้นต้นนั้นแล้ว จึงมิได้ติดต่อเพื่อทราบเหตุดังกล่าวจากศาลชั้นต้นอีก ตามพฤติการณ์ดังกล่าว เห็นได้ว่า กรณีเป็นการเข้าใจผิดของโจทก์และพนักงานเดินหมาย ทั้งสำเนาอุทธรณ์ก็ได้ส่งแก่จำเลยแล้วยังไม่ได้ส่งเฉพาะ หมายเรียกให้จำเลยแก้อุทธรณ์เท่านั้นซึ่งศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้ออกหมายเรียก ให้จำเลยแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด ดังนั้นจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์อุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาในชั้นอุทธรณ์ แต่โจทก์มิได้นำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลยตามคำสั่งศาลชั้นต้น ศาลชั้นต้นจึงส่งอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังศาลอุทธรณ์เพื่อมีคำสั่ง
ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่า เป็นกรณีทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ให้จำหน่ายคดี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ยื่นฟ้องอุทธรณ์เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2528พร้อมกับคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวนคำร้องและส่งสำเนาคำฟ้องอุทธรณ์แก่จำเลย โดยให้โจทก์นำส่งใน 7 วัน ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2528 โจทก์ยื่นคำแถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาต่อไป และได้นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2528 ให้รับอุทธรณ์ของโจทก์ ส่งสำเนาอุทธรณ์ให้จำเลยแก้ใน 15 วัน โดยให้โจทก์นำส่งใน 7 วัน หมายแจ้งคำสั่งให้ทนายโจทก์ทราบ โจทก์ได้ชำระเงินค่าธรรมเนียมในการส่งต่อเจ้าหน้าที่เดินหมายกรมบังคับคดี เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2528 แต่พนักงานเดินหมายได้นำหมายนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาพร้อมกับสำเนาอุทธรณ์ไปส่งแก่จำเลยในวันที่ 17 มกราคม 2528โดยพนักงานเดินหมายอาจไม่ทราบว่าได้มีการงดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาแล้ว จึงมิได้มีการเปลี่ยนหมายนัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา เป็นหมายนัดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ และโจทก์อาจจะเข้าใจผิดว่าการที่โจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ไว้แล้วนั้นเป็นการนำส่งหมายนัดให้จำเลยแก้อุทธรณ์แล้ว เพราะโจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการนำส่งดังกล่าวหลังจากศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์แล้วถึง 6 วันโจทก์จึงมิได้นำส่งอีก แม้ต่อมาภายหลัง โจทก์จะได้รับหมายแจ้งคำสั่งให้นำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์แก่จำเลยอีกครั้งหนึ่ง แต่หมายแจ้งคำสั่งดังกล่าวลงวันที่ 14 มกราคม 2528 ซึ่งเป็นวันก่อนที่โจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการนำส่งหมายนัดและสำเนาอุทธรณ์ โจทก์จึงอาจเข้าใจได้อีกว่าโจทก์ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการนำส่งตามหมายแจ้งคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นแล้ว จึงมิได้ติดต่อเพื่อทราบเหตุดังกล่าวจากศาลชั้นต้นอีก ตามพฤติการณ์ดังกล่าวเห็นได้ว่ากรณีเป็นการเข้าใจผิดของโจทก์และพนักงานเดินหมาย ดังได้วินิจฉัยมาแล้วทั้งสำเนาอุทธรณ์ก็ได้ส่งแก่จำเลยแล้ว ยังไม่ได้ส่งเฉพาะหมายเรียกให้จำเลยแก้อุทธรณ์เท่านั้น ซึ่งศาลชั้นต้นก็มิได้สั่งให้ออกหมายเรียกให้จำเลยแก้อุทธรณ์แต่อย่างใด ดังนั้น จึงจะถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์ไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องอุทธรณ์และให้จำหน่ายคดีนั้นจึงไม่ชอบ
พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินคดีต่อไป