คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 470/2531

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โบนัสพิเศษเป็นเงินที่นายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้างนอกเหนือไปจากที่นายจ้างจะต้องจ่ายตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงานนายจ้างจะจ่ายโบนัสพิเศษให้แก่ลูกจ้างหรือไม่ และถ้าจะจ่ายด้วยวิธีการและหลักเกณฑ์อย่างใดก็แล้วแต่นายจ้างจะกำหนดหรือตามสัญญาระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง
จำเลยที่ 1 ผู้เป็นนายจ้างโจทก์ได้กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายโบนัสพิเศษไว้ในระเบียบว่าด้วยการจ่ายเบี้ยกรรมการและโบนัส ข้อ 10 ว่า ‘การจ่ายเงินโบนัสสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีความชอบพิเศษ ฯลฯ ให้คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้พิจารณาจ่ายให้สำหรับผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภา ส่วนที่เหลือให้ผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภา (จำเลยที่ 2) เป็นผู้พิจารณาจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ชั้นรองลงมาตามที่เห็นสมควร โดยอนุมัติคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภา ฯลฯ’ ซึ่งตามระเบียบดังกล่าว การจ่ายโบนัสพิเศษให้โจทก์เป็นอำนาจของจำเลยที่ 2 ดังนั้น การที่ผลการปฏิบัติงานของโจทก์อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์ปานกลางและจำเลยที่ 2 เห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับโบนัสพิเศษโดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภาโดยชอบด้วยระเบียบดังกล่าว จึงหาใช่จำเลยที่ 2 กระทำตามอำเภอใจโดยไม่ได้กระทำตามกรอบข้อบังคับที่วางไว้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยร่วมกันจ่ายโบนัสพิเศษให้แก่โจทก์สำหรับการทำงานในรอบปี 2527-2528
จำเลยให้การว่า ในรอบปีการทำงาน พ.ศ. 2527-2528 จำเลยที่ 2เห็นว่าโจทก์ยังไม่ใช่ผู้มีความชอบพิเศษตามที่กำหนดไว้ในระเบียบของจำเลย โจทก์จึงไม่ควรได้รับโบนัสพิเศษ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า เงินโบนัสพิเศษนี้ไม่มีกฎหมายบังคับว่านายจ้างต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้าง ลูกจ้างจะมีสิทธิได้รับหรือไม่ยอมขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งตามระเบียบคุรุสภาว่าด้วยการจ่ายเบี้ยกรรมการและโบนัสในองค์การค้าของคุรุสภา พ.ศ. 2502 และที่แก้ไขแล้ว คงระบุไว้เหมือนกันหมดว่าการจ่ายเงินโบนัสแก่ผู้มีความชอบเป็นพิเศษให้ผู้อำนวยการเป็นผู้พิจารณาการจ่ายให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นรองลงมาตามแต่จะเห็นสมควร โดยอนุมัติของคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภา แม้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ฉบับลงวันที่ 15 กันยายน 2526 ก็ระบุไว้เหมือนกันว่า ให้ผู้อำนวยการองค์การค้าฯ พิจารณาจ่ายโบนัสพิเศษให้แก่เจ้าหน้าที่องค์การค้าฯอื่นตามที่เห็นสมควร โดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการองค์การค้าฯ หาได้แตกต่างไปจากระเบียบข้อบังคับขององค์การจำเลยที่ 1 ดังกล่าวข้างต้นไม่ การจ่ายเงินโบนัสพิเศษนั้นเป็นอำนาจของผู้อำนวยการองค์การค้าฯ จำเลยที่ 2 ที่จะพิจารณาจ่ายแก่เจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควร โดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการขององค์การค้าฯ ในเมื่อจำเลยที่ 2 ได้พิจารณาคุณสมบัติของโจทก์ในรอบปีการทำงาน พ.ศ. 2527-2528 ความอุตสาหะในการปฏิบัติงานและการปฏิบัติงานตามระเบียบวินัยของโจทก์แล้วยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะถือว่ามีความชอบเป็นพิเศษ จึงเห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับโบนัสพิเศษ อันเป็นอำนาจของจำเลยที่ 2 กระทำได้ตามระเบียบและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าวข้างต้นแล้วโจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องบังคับให้จำเลยทั้งสองจ่ายโบนัสพิเศษและดอกเบี้ยแก่โจทก์ตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ‘พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โบนัสพิเศษเป็นเงินที่นายจ้างตกลงจ่ายให้แก่ลูกจ้างนอกเหนือไปจากที่นายจ้างจะต้องจ่ายตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน นายจ้างจะจ่ายโบนัสพิเศษให้แก่ลูกจ้างหรือไม่ และถ้าจะจ่ายด้วยวิธีการและหลักเกณฑ์อย่างใดก็แล้วแต่นายจ้างจะกำหนดหรือตามสัญญาระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ซึ่งจำเลยที่ 1 ผู้เป็นนายจ้างได้กำหนดระเบียบเกี่ยวกับการจ่ายโบนัสพิเศษไว้ดังนี้ กล่าวคือระเบียบว่าด้วยการจ่ายเบี้ยกรรมการและโบนัสในองค์การค้าของคุรุสภา พ.ศ. 2502 แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2526 ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ข้อ 7 กำหนดว่า ‘องค์การค้าของคุรุสภาจะจัดสรรกำไรสุทธิร้อยละ 10 โดยหักร้อยละ 1 สมทบกองทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา ส่วนที่เหลือร้อยละ 9 จะจ่ายเป็นโบนัสเจ้าหน้าที่องค์การค้าของคุรุสภา’ ข้อ 8 กำหนดว่า’โบนัสเจ้าหน้าที่ตามข้อ 7 ให้คำนวณจ่ายแก่เจ้าหน้าที่ที่มีสิทธิได้รับโบนัสทุกคนตามเกณฑ์เงินเดือน’ ข้อ 10 กำหนดว่า’การจ่ายเงินโบนัสสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีความชอบพิเศษตามข้อ 4 ให้คณะกรรมการอำนวยการคุรุสภาเป็นผู้พิจารณาจ่ายให้สำหรับผู้อำนวยการองค์การค้าคุรุสภา ส่วนที่เหลือให้ผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภาเป็นผู้พิจารณาจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ชั้นรองลงมาตามแต่จะเห็นสมควร โดยอนุมัติคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภาฯลฯ’ และข้อ 4 กำหนดว่า ‘ในกรณีที่องค์การค้าของคุรุสภามีกำไรฯลฯ ถ้ามีเงินเหลือเมื่อจ่ายโบนัสกรรมการฯลฯ แล้ว ให้กัน 1 ใน 10 ของเงินที่เหลือไปสมทบเงินทุนสวัสดิการเจ้าหน้าที่ขององค์การค้าของคุรุสภาและที่เหลืออีก9 ใน 10 ให้เป็นโบนัสสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีความชอบเป็นพิเศษ’เห็นได้ว่าการจ่ายโบนัสพิเศษสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีความชอบพิเศษนั้น จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการองค์การค้าของคุรุสภาเป็นผู้พิจารณาจ่ายให้ตามแต่จะเห็นสมควร ซึ่งเป็นอำนาจของจำเลยที่ 2 โดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภาและนอกจากนี้ข้อเท็จจริงได้ความเป็นยุติว่า ในการประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน พ.ศ. 2527-2528 ของผู้บังคับบัญชาเบื้องต้นของโจทก์ ได้ประเมินเกี่ยวกับความอุตสาหะในการปฏิบัติงาน ความรับผิดชอบในทรัพย์สินขององค์การค้าฯ และการปฏิบัติงานตามระเบียบวินัยของโจทก์อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเกณฑ์ปานกลางตามรายละเอียดแบบประเมินผลการปฏิบัติงานลงวันที่4 กรกฎาคม 2528 เอกสารที่โจทก์จำเลยอ้างส่งอันดับที่ 1 ดังนั้นการที่จำเลยที่ 2 เห็นว่าโจทก์ไม่ควรได้รับโบนัสพิเศษโดยได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการองค์การค้าของคุรุสภาโดยชอบด้วยระเบียบว่าด้วยการจ่ายเบี้ยกรรมการและโบนัสในองค์การค้าของคุรุสภาดังกล่าวข้างต้นแล้วเช่นนี้ จึงหาใช่จำเลยที่ 2 กระทำตามอำเภอใจโดยไม่ได้กระทำตามกรอบข้อบังคับที่วางไว้ดังที่โจทก์อุทธรณ์ไม่ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share