คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1945/2538

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

แม้โจทก์เป็นเพียง ผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอาศัยเมื่อโจทก์ซึ่งเป็น เจ้าของบ้านอันเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญเป็นพิเศษจากการกระทำของจำเลยย่อมมี อำนาจฟ้องให้ขจัดความเดือดร้อนนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1337

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ขอให้ บังคับ จำเลย และ บริวาร ระงับ การ รบกวน ใช้สิทธิ ครอบครอง ที่ดิน ให้ รื้อถอน เพิง ออก ไป ให้ พ้น ที่ดิน ชายตลิ่งหน้าที่ ดิน ที่ โจทก์ เช่า
จำเลย ให้การ ว่า จำเลย ได้ ปลูก เพิง สำหรับ จอด เรือ และ เฝ้า เรือที่ บริเวณ ริมตลิ่ง คลอง แม่กลอง ซึ่ง เป็น ที่สาธารณประโยชน์ ห่าง จากบริเวณ บ้าน โจทก์ ประมาณ 3 วา โจทก์ ไม่มี สิทธิ ใด ๆ ใน ที่ดิน และไม่เคย ครอบครอง ที่ดิน ดังกล่าว การ ปลูก เพิง ของ จำเลย จึง ไม่เป็นการ แย่ง การ ครอบครอง ที่ดิน สาธารณประโยชน์ แต่อย่างใด ขอให้ ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายก ฟ้องโจทก์
โจทก์ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับ ให้ จำเลย และ บริวาร รื้อถอน เพิงออก ไป ให้ พ้น ที่ดิน ริมคลอง แม่กลอง หน้าที่ ดิน ที่ โจทก์ เช่า กับ วัด ใหญ่ ตำบล แม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัด สมุทรสงคราม ให้ จำเลย และ บริวาร ระงับ การ ก่อกวน การ ใช้ สิทธิ ครอบครอง ที่ดินที่ โจทก์ เช่า ห้าม เกี่ยวข้อง
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า “ข้อเท็จจริง ฟังได้ ตาม ที่ คู่ความ นำสืบรับ กัน ว่า โจทก์ เป็น ผู้เช่า ที่ดิน วัด ใหญ่ ตำบลแม่กลอง อำเภอ เมือง สมุทรสงคราม จังหวัด สมุทรสงคราม ปลูก บ้าน อยู่อาศัยมา หลาย ปี แต่ ต้อง ทำ สัญญาเช่า เป็น รายปี ที่ดิน ที่ โจทก์ เช่า อยู่ ติดคลอง แม่กลอง ซึ่ง เป็น คลอง สาธารณะ บ้าน ที่ โจทก์ ปลูก หัน หน้า ไป ทางคลอง โจทก์ ใช้ ที่ ริมตลิ่ง หน้า บ้าน เป็น ท่าน้ำ ขึ้น ลง และ จอด เรือ จำเลยก็ ปลูก บ้าน อยู่ ใน บริเวณ ใกล้เคียง กับ บ้าน โจทก์ แต่ ได้ นำ เรือ มา จอด ที่หน้า บ้าน โจทก์ มา นาน ประมาณ 10 ปี แล้ว ต่อมา จำเลย ปลูก เพิงใน บริเวณ ที่ จอด เรือ ซึ่ง อยู่ ห่าง จาก บ้าน โจทก์ ประมาณ 4 วา เป็น ที่ชายตลิ่ง อยู่ ใน ความ ดูแล ของ กรมเจ้าท่า โจทก์ เคย ฟ้องขับไล่ จำเลยอ้างว่า จำเลย อาศัย ศาล พิพากษายก ฟ้องคดี ถึงที่สุด แล้ว โจทก์ จึง มาฟ้องคดี นี้ มี ข้อ ที่ ต้อง วินิจฉัย ตาม ฎีกา ของ จำเลย ว่า โจทก์ ซึ่งเป็น ผู้เช่า ที่ดิน วัด ใหญ่ ปลูก บ้านเรือน อยู่อาศัย จะ มีสิทธิ เช่นเดียว กับ ผู้เป็น เจ้าของ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537หรือไม่ เห็นว่า ฟ้อง ของ โจทก์ บรรยาย ว่า เพิง ที่ จำเลย ปลูก อยู่ ที่ชายตลิ่ง หน้า บ้าน โจทก์ กีดขวาง บัง หน้า บ้าน โจทก์ ปิดบัง ทาง ลม แสง สว่างปิดบัง ทิวทัศน์ และ ทำให้ โจทก์ ไม่อาจ ใช้ ท่าน้ำ ขึ้น ลง ได้ โดย สะดวกเป็นเหตุ ให้ โจทก์ ขาด ความสะดวก สบาย ขาด ความ สำราญ เสีย สุขภาพอนามัย ขอให้ จำเลย รื้อ เพิง ดังกล่าว เป็น การ ขอให้ ขจัด ความ เดือดร้อนรำคาญ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แต่ ใน ขณะ เดียว กันก็ มี ลักษณะ ให้ จำเลย ยุติ การกระทำ ที่ เป็น ละเมิด ต่อ โจทก์ ด้วย แม้ โจทก์จะ เป็น เพียง ผู้เช่า ที่ดิน ของ วัด ใหญ่ ปลูก บ้าน อยู่อาศัย หาก ได้รับ ความ เดือดร้อน รำคาญ จาก การกระทำ ของ จำเลย และ ได้รับความ เดือดร้อน เป็น พิเศษ โจทก์ ก็ อยู่ ใน ฐานะ ที่ จะ ฟ้อง ให้ ขจัดความ เดือดร้อน เป็น พิเศษ นั้น ได้ เพราะ เป็น เจ้าของ บ้าน ซึ่ง ปลูก อยู่ใน ที่ดิน ดังกล่าว และ บ้าน เป็น อสังหาริมทรัพย์ จึง เข้า กรณี ที่ระบุ ไว้ ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 โจทก์ จึง มีสิทธิฟ้อง ”
พิพากษายืน

Share