คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 410/2546

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้ตายเล่นสนุกเกอร์พนันเอาทรัพย์สินกันแล้วเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทแม้ผู้ตายจะเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายจำเลยก่อน แต่การที่จำเลยใช้กรรไกรเป็นอาวุธแทงสวนไปในทันทีทั้งที่ผู้ตายไม่มีอาวุธ และเมื่อผู้ตายถูกแทงแล้วเดินเข้าไปในซอยถือไม้กวาดเพื่อไล่ตีจำเลย หากจำเลยไม่ประสงค์จะต่อสู้กับผู้ตายย่อมหลบเลี่ยงเสียได้เพราะผู้ตายบาดเจ็บ การที่จำเลยยังคงยืนอยู่ในที่เกิดเหตุรอจนกระทั่งผู้ตายถือไม้กวาดเข้ามาไล่ตีจำเลย จำเลยจึงวิ่งไปหยิบท่อนเหล็กแป๊ปน้ำตีผู้ตายจนล้มลง พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจำเลยสมัครใจทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย จะอ้างเหตุว่าจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัวไม่ได้
พฤติกรรมที่จำเลยใช้กรรไกรเป็นอาวุธแทงผู้ตายถูกกลางอกขวาทะลุซี่โครงขวาเยื่อหุ้มหัวใจทะลุ และใช้ท่อนเหล็กแป๊ปน้ำยาวประมาณ 20 นิ้ว ตีศีรษะผู้ตายมีบาดแผลถึง 3 แห่ง มีเลือดออกที่หูขวาและสมองช้ำบวม ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ทำให้ถึงแก่ความตายได้ จึงฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้กรรไกรเป็นอาวุธแทงนายสมพงษ์ ทองเทศ ผู้ตาย 1 ครั้งโดยเจตนาฆ่าถูกบริเวณกลางอกขวาทะลุช่องซี่โครงขวาด้านหน้าเยื่อหุ้มหัวใจทะลุและใช้เหล็กแป๊ปน้ำขนาดยาวประมาณ 20 นิ้ว เป็นอาวุธตีผู้ตายหลายครั้งถูกบริเวณศรีษะ ท้ายทอย สมองช้ำบวม เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลยตามรายงานชันสูตรพลิกศพและรายงานการตรวจศพท้ายฟ้องเจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยและยึดได้กรรไกรและเหล็กแป๊ปน้ำที่จำเลยใช้กระทำผิดเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 288 และสั่งริบของกลาง

จำเลยให้การต่อสู้อ้างเหตุป้องกัน

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ลงโทษจำคุก 15 ปี คำให้การชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 10 ปี ริบของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงที่คู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งกันรับฟังยุติได้ว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุจำเลยได้ใช้กรรไกรของกลางแทงผู้ตายถูกบริเวณอกและเมื่อผู้ตายวิ่งเข้าไปในซอยหยิบด้ามไม้กวาดถือออกมาไล่ตีจำเลย จำเลยได้ใช้ท่อนเหล็กแป๊ปน้ำของกลางตีผู้ตายถูกบริเวณศีรษะล้มลง และถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาเนื่องจากบาดแผลที่ถูกจำเลยทำร้าย คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันตัวโดยชอบหรือไม่ ทางพิจารณาได้ความว่าจำเลยกับผู้ตายเล่นสนุกเกอร์พนันกันโดยจำเลยเสียแต้มจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ตาย แต่เมื่อผู้ตายเสียแต้มกลับไม่ยอมจ่ายเงินให้จำเลย จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกัน แล้วผู้ตายเข้าชกต่อยจำเลยก่อน จำเลยจึงใช้กรรไกรของกลางแทงผู้ตายถูกที่กลางอกขวาผู้ตายร้องว่าโดนแทงแล้วเดินเข้าไปในซอย เอาไม้กวาดด้ามยาวออกไล่ตีจำเลย จำเลยวิ่งไปที่รถยนต์ของจำเลยหยิบท่อนเหล็กแป๊ปน้ำออกมาตีผู้ตายจนล้มลงที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยไม่ได้สมัครใจก่อการวิวาททำร้ายกันเพราะมิได้มีการท้าทายผู้ตายให้ออกมาต่อสู้กัน จำเลยใช้กรรไกรแทงผู้ตายเพื่อยับยั้งมิให้ผู้ตายเข้ามาทำร้ายจำเลยอีกเท่านั้น เห็นว่า จำเลยกับผู้ตายเล่นสนุกเกอร์พนันเอาทรัพย์สินกัน แล้วเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกัน แม้ผู้ตายจะเป็นฝ่ายลงมือทำร้ายจำเลยก่อน แต่การที่จำเลยใช้กรรไกรเป็นอาวุธแทงสวนไปในทันทีทั้งที่ผู้ตายไม่มีอาวุธและเมื่อผู้ตายถูกแทงแล้วเดินเข้าไปในซอย ถือไม้กวาดเพื่อจะไล่ตีจำเลย หากจำเลยไม่ประสงค์จะต่อสู้กับผู้ตายย่อมหลบเลี่ยงเสียได้ เพราะผู้ตายบาดเจ็บ การที่จำเลยยังคงยืนอยู่ในที่เกิดเหตุรอจนกระทั่งผู้ตายถือไม้กวาดเข้ามาไล่ตีจำเลยแล้ว จำเลยจึงวิ่งไปหยิบท่อนเหล็กแป๊ปน้ำของกลางตีผู้ตายจนล้มลง พฤติการณ์แห่งคดีแสดงให้เห็นว่า จำเลยสมัครใจทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย จำเลยจะอ้างเหตุว่า จำเลยจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตัวไม่ได้ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นการป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการต่อไปมีว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายหรือไม่เห็นว่า ผู้ตายเข้าชกต่อยจำเลยด้วยมือเปล่าไม่มีอาวุธ การที่จำเลยใช้กรรไกรเป็นอาวุธแทงที่บริเวณกลางอกขวา มีบาดแผลขนาด 8×1 เซนติเมตร ทะลุช่องซี่โครงขวาที่ 3 เยื่อหุ้มหัวใจทะลุ แสดงว่าจำเลยแทงโดยแรง นอกจากนี้ยังปรากฏจากรายงานการตรวจศพว่าผู้ตายมีบาดแผลช้ำบวมที่ท้ายทอย เลือดออกหูขวาบาดแผลฟกช้ำที่ชายผมขวา และฟกช้ำที่ริมฝีปากด้านบน สมองช้ำบวม ซึ่งนายสมัย โพธิสุวรรณ พยานโจทก์ซึ่งจ้องมองอยู่บนดาดฟ้าก็เบิกความยืนยันว่า เห็นจำเลยใช้ท่อนเหล็กแป๊ปน้ำตีผู้ตายที่ท้ายทอยจนล้มลงแล้วจำเลยตีช้ำอีก 3 ครั้ง สอดคล้องกับบาดแผลที่ปรากฏในรายงานการตรวจศพน่าเชื่อว่าจำเลยใช้ท่อนเหล็กแป๊ปน้ำของกลางตีผู้ตายหลายครั้งจริง ที่จำเลยอ้างว่าใช้ท่อนเหล็กแป๊ปน้ำตีผู้ตายเพียงครั้งเดียวขัดแย้งกับรายงานการตรวจศพ ไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติกรรมที่จำเลยใช้กรรไกรเป็นอาวุธแทงผู้ตายถูกกลางอกขวาทะลุซี่โครงขวา เยื่อหุ้มหัวใจทะลุ และใช้ท่อนเหล็กแป๊ปน้ำยาวประมาณ 20 นิ้ว ตีศีรษะผู้ตายมีบาดแผลที่ศีรษะถึง 3 แห่ง มีเลือดออกที่หูขวาและสมองช้ำบวม ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ทำให้ถึงแก่ความตายได้ ฟังได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

ปัญหาสุดท้ายที่จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษในสถานเบาและลดหย่อนโทษให้แก่จำเลยนั้น เห็นว่า ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 มีระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี ศาลชั้นต้นกำหนดโทษที่จะลงแก่จำเลย จำคุก 15 ปี อันเป็นโทษขั้นต่ำสุดตามกฎหมายและลดโทษฐานให้การรับสารภาพชั้นสอบสวนและคำเบิกความของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงลงโทษจำคุกจำเลยเพียง 10 ปีนับว่าเป็นการลงโทษในสถานเบาและลดหย่อนโทษให้แก่จำเลยเหมาะสมแล้ว ไม่มีเหตุที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น”

พิพากษายืน

Share