คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4687/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่ผู้สั่งจ่ายออกเช็คโดยไม่ลงวันที่ แต่ได้ลงชื่อกำกับไว้ย่อมมีความหมายว่าผู้สั่งจ่ายตกลงยินยอมให้ผู้ทรงโดยสุจริตจดวันที่เอาเองได้โดยถือว่าได้รับความยินยอมจากผู้สั่งจ่ายตามลายมือชื่อที่ลงกำกับไว้ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็คซึ่งกระทำหลังจากเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ โดยปกติผู้ทรงเช็คจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวังไม่ใช่ปล่อยให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามความพอใจ เมื่อการแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันออกเช็คไม่ปรากฎว่ามีการลงลายมือชื่อกำกับไว้อันเป็นการผิดปกติกับที่เคยปฎิบัติ มา จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ทำหรือยินยอมด้วยในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเมื่อผู้ทรงนำเช็คมาฟ้องให้ผู้สั่งจ่ายรับผิดเกิน 1 ปี นับแต่วันเช็คถึงกำหนดครั้งแรกคดีจึงขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน 1 ฉบับเป็นเงิน 247,352.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์รับเช็คพิพาทมาจากผู้มีชื่อโดยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน เช็คพิพาททั้งสองฉบับนั้นได้เรียกเก็บเงินจากธนาคารมาแล้วครั้งหนึ่ง ธนาคารได้ปฎิเสธ การจ่ายเงินผู้มีชื่อได้สมคบกับโจทก์แก้ไขวันที่แล้วนำไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารอีกเป็นครั้งที่สอง โจทก์จึงไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็คโดยสุจริตและโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็คเกิน 1 ปี นับแต่วันที่ลงในเช็ค คดีขาดอายุความขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน 242,800 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 25ธันวาคม 2530 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่าจำเลยได้ทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันออกเช็คพิพาทเป็นวันที่ 25 ธันวาคม 2530 ดังที่โจทก์อ้างหรือไม่ ในข้อนี้โจทก์มีตัวโจทก์และนายวิโรจน์หรือสมโภชน์ แซ่ลิ้ม ซึ่งเป็นคนกลางนำเช็คพิพาทจากจำเลยไปชำระหนี้และแลกเงินสดจากโจทก์เบิกความประกอบกันได้ความดังที่โจทก์นำสืบว่า หลังจากโจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้แล้ว โจทก์ได้พยายามติดต่อจำเลยอีกหลายครั้ง นายศิริกรรมการผู้จัดการจำเลยจะออกเช็คเปลี่ยนให้ใหม่ แต่ไม่ทันได้เปลี่ยน นายศิริถูกยิงได้รับบาดเจ็บไปไหนไม่ได้และไม่สามารถหาเช็คมาเปลี่ยนใหม่ได้จึงได้ทำการแก้ไขวันออกเช็คเดิม ฝ่ายจำเลยต่อสู้และนำสืบเกี่ยวกับเรื่องวันออกเช็คว่าจำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทเพื่อเป็นการค้ำประกันเงินกู้ที่จำเลยกู้เงินจากนายวิโรจน์หรือสมโภชน์ไปเป็นเงิน 242,000 บาท โดยไม่ได้ลงวันออกเช็คแต่ก็ได้ลงชื่อกำกับไว้ เห็นว่า ข้อต่อสู้ของจำเลยขัดต่อเหตุผลไม่น่าเชื่อถือเพราะการที่ผู้สั่งจ่ายลงชื่อกำกับไว้ในช่องวันที่ออกเช็คโดยมิได้ลงวันออกเช็คไว้นั้น ย่อมมีความหมายว่าผู้สั่งจ่ายตกลงยินยอมให้ผู้ทรงโดยสุจริตจดวันที่นั้นเอาเองได้โดยถือว่าได้รับความยินยอมจากผู้สั่งจ่ายตามลายมือชื่อที่ลงกำกับไว้ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมิได้ลงวันออกเช็คไว้ก็แสดงว่าจำเลยยินยอมหรือมอบหมายให้โจทก์ในฐานะผู้ทรงจดวันที่ออกเช็คในวันดังกล่าวได้ส่วนที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันที่ออกเช็คต่อมาโจทก์เบิกความว่าเป็นการกระทำของนายศิริกรรมการจำเลย คงมีแต่ตัวโจทก์เบิกความลอย ๆ ไม่มีเหตุผล ทั้งการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช็คกระทำหลังจากเช็คนั้นไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารไม่ได้ โดยปกติฝ่ายผู้ทรงเช็คจะต้องกระทำโดยระมัดระวังมิใช่ปล่อยให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามความพอใจดังเช่นกรณีนี้กล่าวคือ นายศิริได้แก้ไขโดยเขียนวันออกเช็คใหม่ด้านล่างวันออกเช็คเดิมและการแก้ไขใหม่นี้ปรากฎว่ามีการเลื่อนเดือนออกจากเช็คเดือนพฤศจิกายน 2528 ไปเป็นเดือนพฤษภาคม 2530โดยไม่ทราบสาเหตุ แม้ต่อมาจะมีการแก้ไขวันออกเช็คอีกเป็นวันที่ 25 ธันวาคม 2530 โดยโจทก์อ้างว่านายศิริเกรงว่าจะหาเงินใช้หนี้ไม่ทัน จึงได้ขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันออกเช็คออกไปอีกก็ตาม แต่ก็ไม่ปรากฎว่ามีการลงลายมือชื่อกำกับไว้อันเป็นการผิดปกติกับที่เคยปฎิบัติ มา ข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ดังกล่าวมาจึงไม่น่าเชื่อว่าจำเลยได้กระทำการแก้ไขเปลี่ยนแปลงวันออกเช็คไปดังที่โจทก์อ้าง คงฟังได้เพียงว่าจำเลยได้ตกลงยินยอมให้มีการจดวันออกเช็คพิพาททั้งสองฉบับได้ครั้งเดียวคือวันที่ 14 พฤศจิกายน 2528 และ 25พฤศจิกายน 2528 ตามลำดับอันเป็นวันที่โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารเท่านั้น ส่วนวันออกเช็ควันที่ 25ธันวาคม 2530 ของเช็คพิพาททั้งสองฉบับจำเลยมิได้ทำหรือยินยอมด้วยในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เมื่อโจทก์นำเช็คมาฟ้องเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2531 เกิน 1 ปี นับแต่วันเช็คถึงกำหนดครั้งแรก ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ คดีไม่จำต้องวินิจฉัยประเด็นที่จำเลยแก้ฎีกาว่าโจทก์รับโอนเช็คพิพาทมาจากผู้ที่ซื้อ โดยคบคิดกันฉ้อฉลหรือไม่อีกต่อไป
พิพากษายืน

Share