คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4648/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในการแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อยแล้วนำออกขายตามโครงการของจำเลยทั้งสองได้ระบุแผนผังแนบท้ายกับสัญญาซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อที่ดินในโครงการว่า มีรูปถนนดังแผนผังแนบท้ายโฉนด จากนั้นผู้ดำเนินโครงการได้ทยอยแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อย คราวละไม่เกิน 9 แปลง ทำให้ไม่ตกอยู่ในบังคับของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ก็ตาม แต่ก็เป็นการจัดสรรที่ดินอันทำให้ถนนที่พิพาทเป็นสาธารณูปโภคตามผลในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 แล้ว แม้ต่อมาจะมี พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว แต่มาตรา 69 ก็บัญญัติให้ถือว่าการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 เป็นการจัดสรรที่ดินตาม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ.2543 ด้วย ดังนั้น ถนนพิพาทจึงเป็นสาธารณูปโภคแก่ที่ดินแปลงย่อยที่โจทก์ซื้อปลูกสร้างอาคารในโครงการจัดสรรดังกล่าว จำเลยทั้งสองไม่อาจกระทำการใดอันทำให้เสื่อมต่อสิทธิของเจ้าของที่ดินในโครงการในอันที่จะใช้ถนนดังกล่าวได้
โจทก์ฟ้องขอให้รื้อถอนแท่นคอนกรีตออกไปจากถนนพิพาท จึงมีความหมายว่าขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เพื่อให้ถนนกลับมามีสภาพดังเดิม การรื้อถอนแท่นคอนกรีตจึงมีความหมายถึงสิ่งที่ติดตั้งอยู่บนแท่นคอนกรีตซึ่งหมายความรวมถึงศาลพระภูมิด้วย

ย่อยาว

โจทก์ทั้งสองฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนแท่นคอนกรีตและขนย้ายหินออกจากถนนหน้าอาคารเลขที่ 125/6 และ 125/7 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 3,500 บาท พร้อมค่าเสียหาย วันละ 500 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองรื้อถอนแท่นคอนกรีตและขนย้ายหินออกจากถนนแก่โจทก์ที่ 2 และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 70,000 บาท และค่าเสียหายวันละ 10,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยทั้งสองจะรื้อถอนแท่นคอนกรีตและขนย้ายหินออกจากถนนเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง
จำเลยทั้งสองให้การและแก้ไขคำให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 รื้อถอนแท่นคอนกรีตและศาลพระภูมิออกจากถนนหน้าอาคารเลขที่ 125/6 และ 125/7 แขวงบางแคเหนือเขตบางแค กรุงเทพมหานคร คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก ยกฟ้องโจทก์ที่ 1 ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์ทั้งสองและจำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันรื้อถอนแท่นคอนกรีตและศาลพระภูมิออกจากถนนหน้าอาคารเลขที่ 125/6 และ 125/7 แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ทั้งสองศาลแทนโจทก์ทั้งสอง โดยกำหนด ค่าทนายความรวม 12,000 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในการแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อยแล้วนำออกขายตามโครงการตรีจุฑา ได้ระบุแผนผังแนบท้ายกับสัญญาซื้อขายให้แก่ผู้ซื้อที่ดินในโครงการว่า มีรูปถนนดังแผนผังแนบท้ายโฉนด จากนั้นผู้ดำเนินโครงการได้ทยอยแบ่งที่ดินออกเป็นแปลงย่อย คราวละไม่เกิน 9 แปลง ทำให้ไม่ตกอยู่ในบังคับของประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 ก็ตาม แต่ก็เป็นการจัดสรรที่ดิน อันทำให้ถนนที่พิพาทเป็นสาธารณูปโภคตามผลในประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 แล้ว แม้ต่อมาจะมีพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติดังกล่าว แต่มาตรา 69 ก็บัญญัติให้ถือว่าการจัดสรรที่ดินตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 286 เป็นการจัดสรรที่ดินตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 ด้วย ดังนั้น ถนนพิพาทจึงเป็นสาธารณูปโภคแก่ที่ดินในโครงการจัดสรรดังกล่าว จำเลยทั้งสองไม่อาจกระทำการใดอันทำให้เสื่อมต่อสิทธิของเจ้าของที่ดินในโครงการในอันที่จะใช้ถนนดังกล่าว ที่จำเลยทั้งสองอ้างว่า การก่อสร้างแท่นคอนกรีตตั้งศาลพระภูมิ ไม่ได้กีดขวางการใช้ถนนของโจทก์ แต่ก็เป็นการทำให้สาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรเสื่อมประโยชน์ในการใช้งานลง จึงก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยทั้งสองรื้อถอนแท่นคอนกรีตดังกล่าวจึงชอบแล้ว
จำเลยทั้งสองก่อสร้างแท่นคอนกรีตเป็นฐานตั้งศาลพระภูมิ ขอให้รื้อถอนแท่นคอนกรีตออกไปจากถนนพิพาท จึงมีความหมายว่าขอให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เพื่อให้ถนนกลับมามีสภาพดังเดิม การรื้อถอนแท่นคอนกรีตจึงมีความหมายถึงสิ่งที่ติดตั้งอยู่บนแท่นคอนกรีตซึ่งหมายความรวมถึงศาลพระภูมิด้วย คำพิพากษาของศาลล่างทั้งสองชอบแล้ว หาเป็นการพิพากษาเกินคำขอไม่
พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าทนายความในชั้นฎีกาแทนโจทก์ทั้งสองจำนวน 10,000 บาท

Share