คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 137/2534

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

โจทก์ใช้เครื่องหมายการค้า คำว่า Mita มาก่อนจำเลย ทั้งได้จดทะเบียนไว้ในประเทศต่าง ๆ หลายประเทศ และได้ส่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยก่อนที่จำเลยจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์จึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้านี้ดีกว่าจำเลย แม้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยขอจดทะเบียนจะได้รับการจดทะเบียนแล้วก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิดีกว่าโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นได้ตาม พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้าฯมาตรา 41(1) ข้อที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้รับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.เครื่องหมายการค้าฯ มาตรา 20 เป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ เป็นเรื่องนอกประเด็น แม้จำเลยได้นำสืบต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น และยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ด้วยก็ตามก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาย่อมไม่วินิจฉัยให้.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า mitaอ่านว่า มิต้าและได้ใช้เครื่องหมายการค้านี้กับสินค้าในจำพวก 39และสินค้าในจำพวก 1 โดยจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า mitaในประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ และได้ใช้เครื่องหมายการค้านี้กับสินค้าดังกล่าวของโจทก์ประมาณ 10 ปีแล้วจนเป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทย โจทก์ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ คำว่า mita ไว้ต่อกองสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า สำหรับสินค้าในจำพวก 39 ตามคำขอเลขที่ 14201และในจำพวก 1 ตามคำขอเลขที่ 142099 จำเลยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า mita สำหรับสินค้าในจำพวก 39 ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 116910 ทะเบียนเลขที่ 79609 ไว้ต่อกองสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2527 และวันที่ 5กุมภาพันธ์ 2528 โจทก์ได้รับหนังสือของนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าลงวันที่ 3 ธันวาคม 2527 และลงวันที่ 28 มกราคม 2528 ปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า mita ของโจทก์ที่ได้ยื่นขอจดทะเบียนไว้ เครื่องหมายการค้าคำว่า mita จำเลยได้นำไปจดทะเบียนโดยไม่สุจริตโดยลักลอบเอาไปจากโจทก์ ขอให้พิพากษาให้โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า mita ดีกว่าจำเลย ให้จำเลยถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 116909 ทะเบียนเลขที่73559 และตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 116910 ทะเบียนเลขที่ 79609หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลยห้ามมิให้จำเลยยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวอีก
จำเลยให้การว่า จำเลยเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า mitaอ่างว่า มิต้าแปลว่า กำลังควบคุมกรรมกรชาวอินเดียในประเทศเปรูหนึ่งหมวด บังคับควบคุมโดยชาวสเปน ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสินค้าในจำพวก 1 และจำพวก 39 ทั้งจำพวก เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2524จำเลยนำเครื่องหมายการค้าดังกล่าวไปใช้กับสินค้าประเภทกระดาษและสีทาบ้าน จำเลยใช้เครื่องหมายการค้าแพร่หลายต่อสาธารณชนเป็นที่รูจักแพร่หลายในวงการค้ามาหลายปีแล้ว กองสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าได้รับจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายตามทะเบียนเลขที่ 79609 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2526 และเลขที่ 73559 เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2525 การที่โจทก์ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า mita เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า mita ดีกว่าจำเลย ให้จำเลยถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้า(ที่ถูกน่าจะเป็นให้จำเลยไปจดทะเบียนเพิกถอนเครื่องหมายการค้า)ตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 116909 ทะเบียนเลขที่ 73559 และตามคำขอจดทะเบียนเลขที่ 116910 ทะเบียนเลขที่ 79609 หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ยกคำขออื่นนอกจากนี้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว คดีมีประเด็นในชั้นฎีกาข้อเดียวว่า โจทก์มีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า mita (อ่านว่ามิต้า) ดีกว่าจำเลยหรือไม่… ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า โจทก์ได้ใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า mita มาก่อนจำเลย ทั้งได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นไว้ในต่างประเทศหลายประเทศ และได้ส่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าดังกล่าวเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยก่อนที่จำเลยจะจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า โจทก์จึงมีสิทธิในเครื่องหมายการค้าคำว่า mita ดีกว่าจำเลย จำเลยเป็นกรรมการของบริษัทแรนด์คอร์เปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำเหน่ายสินค้าของโจทก์เช่นว่านั้นในประเทศไทย จำเลยย่อมรู้ถึงเครื่องหมายการค้าของโจทก์ จำเลยขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าคำว่า mita โดยรู้อยู่แล้วว่าโจทก์เป็นเจ้าของ แม้เครื่องหมายการค้าที่จำเลยขอจดทะเบียนจะได้รับการจดทะเบียนแล้วก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิดีกว่าโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนทะเบียนเครื่องหมายการค้านั้นได้ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2474 มาตรา 41(1)…ที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์ไม่ได้รับความคุ้มครองเนื่องจากโจทก์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำฟ้องไว้ในประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทยไม่มีความตกลงคุ้มครองเครื่องหมายการค้าในลักษณะที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวกับรัฐบาลต่างประเทศนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ เป็นเรื่องนอกประเด็น แม้จำเลยได้นำสืบต่อสู้ไว้ในศาลชั้นต้น และยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ด้วยก็ตาม ก็ถือไม่ได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายืน.

Share