คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 464/2545

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามคำฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่ารถยนต์ที่จำเลยขายให้โจทก์มีความชำรุดบกพร่องของระบบเกียร์อันเป็นวัสดุที่จำเลยรับประกันไว้ว่าจะซ่อมหรือเปลี่ยนให้ โจทก์จึงบังคับให้จำเลยซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ให้โจทก์ใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ แต่ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์กลับขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนเท่ากับราคารถยนต์พิพาทที่โจทก์ซื้อไปจากจำเลยหรือให้จำเลยนำรถยนต์คันใหม่ที่มีลักษณะเหมือนรถยนต์พิพาทและมีสภาพใช้งานได้ดีมาเปลี่ยนให้โจทก์ ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือจากที่จำเลยได้รับประกันไว้ โจทก์ย่อมไม่อาจบังคับจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงรับประกันดังกล่าวได้จึงเป็นคำขอที่ศาลไม่อาจบังคับให้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน 438,000 บาท หรือให้จำเลยทั้งสองนำรถยนต์คันใหม่ที่มีลักษณะเหมือนรถยนต์คันพิพาทซึ่งมีสภาพใช้งานได้ดีมาเปลี่ยนให้โจทก์
จำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยทั้งสอง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อรถยนต์พิพาทมาจากจำเลยที่ 1 จำเลยทั้งสองตกลงรับประกันว่าจำเลยทั้งสองจะซ่อมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วนใด ๆ ที่เกิดความเสียหาย อันเนื่องมาจากความบกพร่องของวัสดุหรือกรรมวิธีการผลิตจากโรงงานภายใต้การใช้งานตามปกติเป็นระยะเวลา 24 เดือน หรือ 50,000 กิโลเมตร แล้วแต่ระยะใดจะถึงก่อน โจทก์อ้างว่าระบบเกียร์ผิดปกติเพราะเข้าเกียร์ยากและบางครั้งเข้าเกียร์แล้วเกียร์จะหลุด กับระบบเครื่องปรับอากาศมีเสียงดังจากคอมเพรสเซอร์ โจทก์ได้นำรถยนต์ให้จำเลยที่ 1 ทำการซ่อมระบบเกียร์หลายครั้งอาการดังกล่าวก็ไม่หาย คงหายเฉพาะเสียงดังของเครื่องปรับอากาศ โจทก์แจ้งจำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 2 ก็ให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้รับผิดชอบ ตามคำฟ้องของโจทก์เป็นเรื่องที่โจทก์อ้างว่ามีความชำรุดบกพร่องของระบบเกียร์อันเป็นวัสดุที่จำเลยทั้งสอง รับประกันไว้ว่าจะซ่อมหรือเปลี่ยนให้ โจทก์จึงบังคับให้จำเลยทั้งสองซ่อมหรือเปลี่ยนเกียร์ให้โจทก์ใหม่เพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติเท่านั้น แต่ตามคำขอท้ายฟ้อง โจทก์กลับขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินจำนวน 438,000 บาท เท่ากับราคารถยนต์พิพาทที่โจทก์ซื้อไปจากจำเลยที่ 1 แก่โจทก์ หรือให้จำเลยทั้งสองนำรถยนต์คันใหม่ที่มีลักษณะเหมือนรถยนต์พิพาทและมีสภาพใช้งานได้ดีมาเปลี่ยนให้โจทก์ ซึ่งเป็นเรื่องนอกเหนือจากที่จำเลยทั้งสองได้รับประกันไว้ โจทก์ไม่อาจบังคับจำเลยทั้งสองโดยอาศัยข้อตกลงรับประกันดังกล่าวได้คำขอบังคับจึงเป็นคำขอที่ศาลไม่อาจบังคับให้ได้ เมื่อโจทก์ฎีกาขอให้ศาลฎีกากลับคำพิพากษาของศาลล่างทั้งสอง และบังคับจำเลยทั้งสองตาม คำขอท้ายฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่อาจบังคับให้โจทก์ได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล คดีไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาของโจทก์ต่อไป
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share