แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คดีที่โจทก์ฟ้อง ผ. ต่อศาลแรงงานกลางเป็นคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเกี่ยวกับทำงานตามสัญญาจ้างแรงงานหาใช่คดีละเมิดอย่างเดียวไม่ เพราะโจทก์กับ ผ. เป็นนายจ้างลูกจ้างมีข้อผูกพันตามสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน จำเลยค้ำประกันการทำงานของผ.ต่อโจทก์โดยยอมรับผิดในความเสียหายที่ผ.ทำงาน จึงต้องผูกพันค้ำประกันความรับผิดของ ผ.ตามสัญญาจ้างแรงงานด้วยสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาจ้างแรงงาน ไม่มีกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164(193/30 ที่ได้ตรวจชำระใหม่)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันการทำงานของนายผิวต่อโจทก์ชดใช้หนี้ที่นายผิวกระทำละเมิดในทางการที่จ้างจำนวน 187,655 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า คดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว หนังสือค้ำประกันนายผิวเข้าทำงานกับโจทก์ ได้กำหนดเวลาค้ำประกันไว้ในสัญญาดังกล่าวเพียง 1 ปี จำเลยไม่ต้องรับผิดร่วมกับนายผิว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 157,665 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 20มีนาคม 2530) จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ โดยให้รับผิดร่วมกับนายผิว สุริวงศ์
โจทก์และจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยใช้เงินจำนวน 187,655บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2530 โจทก์ฟ้องนายผิว ต่อศาลแรงงานกลางในฐานละเมิดและผิดสัญญาจ้างแรงงานศาลแรงงานกลางพิพากษาให้นายผิวใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงิน197,655 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย ตามสำนวนคดีหมายเลขแดงที่1069/2530 ของศาลแรงงานกลางจนบัดนี้นายผิวยังไม่ชดใช้เงินแก่โจทก์ ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยมีเพียงว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เห็นว่า คดีที่โจทก์ฟ้องนายผิวต่อศาลแรงงานกลางเป็นคดีอันเกิดแต่มูลละเมิดระหว่างนายจ้างและลูกจ้างเกี่ยวกับทำงานตามสัญญาจ้างแรงงาน หาใช่เป็นคดีละเมิดอย่างเดียวไม่เพราะโจทก์กับนายผิวเป็นนายจ้างลูกจ้างมีข้อผูกพันตามสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน นอกจากนายผิวทำละเมิดต่อโจทก์แล้วยังฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานด้วยอันเป็นการผิดสัญญาจ้างแรงงานตามระเบียบบริษัทและระเบียบพนักงานเอกสารหมาย จ.18 และจ.19 ด้วย ตามหนังสือรับรองและค้ำประกันเอกสารหมาย จ.5 ข้อ 2 ระบุว่า “หากปรากฏว่าระหว่างที่นายผิวทำงานได้ทำความเสียหายอย่างหนึ่งอย่างใดให้แก่โจทก์ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นโดยเจตนาหรือความประมาทเลินเล่อ จำเลยยอมรับผิดในความเสียหายนั้น ๆ และยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ตามจำนวนที่เสียหายไปนั้นทั้งสิ้น ฯลฯ และให้ถือว่าจำเลยเป็นลูกหนี้ร่วม ฯลฯ” ข้อผูกพันของจำเลยที่มีต่อโจทก์จึงหมายถึงจำเลยค้ำประกันความรับผิดของนายผิวตามสัญญาจ้างแรงงานด้วยสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายอันเกิดจากการผิดสัญญาจ้างแรงงานตามคำฟ้องของโจทก์ ไม่มีกฎหมายกำหนดอายุความไว้เป็นอย่างอื่น จึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164(193/30 ที่ได้ตรวจชำระใหม่)โจทก์ฟ้องนายผิวภายในอายุความดังกล่าว จำเลยในฐานะผู้ค้ำประกันจะยกอายุความเรื่องละเมิด 1 ปี นับแต่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง มาต่อสู้คดีหาได้ไม่ คำพิพากษาฎีกาที่จำเลยอ้างข้อเท็จจริงต่างกับคดีนี้คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน