แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
การขอไม่ให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา แต่เป็นการขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์อันเป็นอำนาจเฉพาะของศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้วคำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดคู่ความจะฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์มิได้
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาว่าทางพิพาทอยู่ในที่ดินโฉนดเลขที่ 32093 ตกเป็นทางภาระจำยอมแก่ที่ดินโฉนดเลขที่4378 และ 4379 ของโจทก์ ให้จำเลยทั้งห้าไปจดทะเบียนภาระจำยอมในที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ ถ้าจำเลยทั้งห้าไม่ไปให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นเครื่องแสดงเจตนาแทน ให้จำเลยทั้งห้ารื้อถอนรั้ว สิ่งกีดขวางและสิ่งก่อสร้างในทางภาระจำยอมออกให้หมด และทำให้ทางภาระจำยอมอยู่ในสภาพเรียบร้อย
จำเลยทั้งห้าอุทธรณ์และยื่นคำร้องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์สั่งคำร้องว่า อนุญาตให้ทุเลาการบังคับเฉพาะให้จำเลยทั้งห้าไปจดทะเบียนภาระจำยอมในที่ดินโฉนดเลขที่ 32093 แต่ห้ามทำนิติกรรมใด ๆ เกี่ยวกับที่ดินพิพาทในระหว่างอุทธรณ์ ให้ศาลชั้นต้นแจ้งคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินทราบ ส่วนที่ให้รื้อถอนรั้ว สิ่งกีดขวาง และสิ่งก่อสร้างในที่ดินดังกล่าว ไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ
จำเลยทั้งห้าฎีกาว่า การรื้อถอนรั้ว สิ่งกีดขวางและสิ่งก่อสร้างนั้น จำเลยทั้งห้าสมควรจะได้รับการทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์อันเป็นการคุ้มครองผลประโยชน์ของจำเลยทั้งห้าไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำพิพากษาคดีนี้ถึงที่สุด
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามฎีกาของจำเลยทั้งห้าเท่ากับเป็นการขอให้เพิกถอนคำสั่งศาลอุทธรณ์ในส่วนที่ไม่อนุญาตให้จำเลยทั้งห้าทุเลาการบังคับไว้ในระหว่างอุทธรณ์ และขอไม่ให้บังคับจำเลยทั้งห้าปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มิใช่เป็นการร้องขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา คำสั่งที่อนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์เป็นอำนาจเฉพาะของศาลอุทธรณ์เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้ว คำสั่งของศาลอุทธรณ์ย่อมเป็นที่สุดคู่ความจะฎีกาโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์มิได้ คำสั่งคำร้องของศาลฎีกาที่จำเลยทั้งห้าอ้างมาในฎีกาเป็นเรื่องเกี่ยวกับคำขอเพื่อคุ้มครองประโยชน์คู่ความในระหว่างพิจารณาข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของจำเลยทั้งห้าซึ่งโต้แย้งคำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายกฎีกาของจำเลยทั้งห้า