คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 46/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าเสียหายในกรณีผิดสัญญาตามความใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา 222 นั้นมิใช่เฉพาะแต่กรณีที่คาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ ในเวลาทำสัญญาเท่านั้น ถ้าหากผู้ผิดสัญญาย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ว่าการที่ตัวทำผิดสัญญา จะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็อาจมีความรับผิดในค่าเสียหายนั้นดัวย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ห้างหุ้นส่วนโจทก์ได้ทำสัญญาซื้อไม้สักเหลี่ยม จากจำเลยแล้วจำเลยผิดสัญญาบอกเลิกการขอยไปยังโจทก์ โจทก์จึงเรียกค่าเสียหายจากจำเลย ฯลฯ
จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ผิดสัญญาเอง
ศาลแพ่งพิพากษาหให้จำเลยคืนเงินมัดจำแก่โจทก์ ส่วนค่าเสียหายโจทก์นำสืบไม่ชัด
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายฐานผิดสัญญาให้โจทก์เป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ฯลฯ นอกนี้ยืน
โจทก์จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า อันค่าเสียหายในกรณีผิดสัญญาตามความใน ป.ม.แพ่งฯมาตรา ๒๒๒ นั้น มิใช่เฉพาะแก่กรณีที่คาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ ในเวลาทำสัญญาเท่านั้น ถ้าหากผู้ผิดสัญญาย่อมคาดเห็นหรืออยู่ในฐานะคาดเห็นได้ว่า การที่ตัวทำผิดสัญญาจะเป็นผลให้เกิดการเสียหายแก่อีกฝ่ายหนึ่งอย่างใดแล้ว ก็อาจมีความรับผิดในค่าเสียหายนั้นด้วย สำหรับค่าเสียหายนั้น ศาลฎีกา พิพากษาให้จำเลยใช้แก่โจทก์เป็นเงิน ๓๖,๒๖๗ บาท ๗๕ สตางค์ ฯลฯ นอกจากจากนี้คงยืน

Share